หน้า:ประวัติฯ ศรีสุริยวงศฯ - ดำรง - ๒๔๗๒.pdf/22

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕

พระยาบรมมหาศรีสุริยวงศทูลว่า บิดาของท่านกับเสนาบดีช่วยกันรักษาราชการบ้านเมืองเป็นปกติอยู่ ไม่มีเหตุอันสมควรจะทรงหวาดหวั่นเช่นนั้น ขอให้ไล่คนกัลบไปเสียใหม้หมดโดยเร็ว มิฉะนั้น จะให้ทหารมาจับเอาคนเหล่านั้นไปทำโทษ กรมขุนพิพิธภูเบนทร์ก็จนพระหฤทัย ต้องให้ปล่อยคนกลับไปหมด

เรื่องประวัติของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศอันเนื่องด้วยการถวายราชสมบัติแก่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น เคยได้ยินท่านผู้หลักผู้ใหญ่แต่ก่อนเล่กาันมาว่า สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศได้คิดเห็นก่อนบิดาของท่านว่า ถ้าพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวสวรรคต ราชสมบัติต้องได้แก่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านเมืองจึงจะเป็นปกติต่อไป อาศัยเหตุนั้น ตัวท่าน เมื่อยังเป็นที่จมื่นวัยวรนารถ กับเจ้าพระยาทิพากรวงศ เมื่อยังเป็นที่จมื่นราชามาตย์ ซึ่งมีความเห็นพ้องกัน จึงชวนกันปฏิสังขรณ์วัดดอกไม้[1] ซึ่งอยู่ในสวนแห่งหนึ่งไม่ห่างไกลกับบ้านที่ท่านอยู่นั้น แล้วกราบทูลขอคณะสงฆ์ธรรมยุติกาจากพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวไปครอง เมื่อเช่นนั้น ก็เกิดมีกิจที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวต้องเสด็จไปทรงตรวจตราและสั่งสอนพระสงฆ์ซึ่งออกวักไปใหม่เนือง ๆ ฝ่ายสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศกับเจ้าพระยาทิพากรวงศก็ได้โอกาสมาเฝ้าแหน เกิด


  1. ต่อมา พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานนามว่า วัดบุบผาราม สันนิษฐานว่า ในสมัยนั้น เห็นจะเป็นวัดร้าง