หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/10

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
(๒)

ถึงวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๓๗ ได้เป็นตำแหน่งเลขานุการของข้าหลวงเทศาภิบาลสำเร็จราชการมณฑลนครราชสิมา และเป็นผู้ช่วยข้าหลวงมหาดไทย มณฑลนครราชสิมา อีกตำแหน่งหนึ่ง ได้รับพระราชทานสัญญาบัตรบรรดาศักดิ์เป็นหลวงรังสฤษศุภการ ถือศักดินา ๖๐๐ สังกัดกระทรวงมหาดไทย ในวันที่ ๒๖ เมษายนนั้น และได้ทำการสมรสกับตุ่ม สิงหเสนี เมื่อวันที่ ๑๕ มกราคม พ.ศ. นั้น.

วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๔๐ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นตำแหน่งข้าหลวงมหาดไทย มณฑลนครราชสิมา ได้กราบถวายบังคมลาอุปสมบทณวัดกลาง จังหวัดนครราชสิมา เมื่อวันที่ ๑๓ กรกฎาคม พ.ศ. นี้ ๑ พรรษา.

ครั้นลาสิกขาแล้ว กลับมารับราชการตามเดิม ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสัญญาบัตรเลื่อนขึ้นเป็นพระนครภักดีศรีนครานุรักษ์ ถือศักดินา ๓๐๐๐ ไร่ เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๔๔ และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ในมณฑลนครราชสิมาเมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๕๐

ระวางเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์นั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหัวหน้าควบคุมคนและพาหนะ กับทั้งเป็นข้าหลวงฝ่ายสยามสมทบกับข้าหลวงฝรั่งเศสในการปักปันเขตต์แดนตั้งแต่เขตต์อรัญประเทศ แขวงจังหวัดกะบินทร์บุรี มณฑลปราจีน ถึงบ่อไพริน มณฑลจันทบุรี ได้อยู่ประชุมปรึกษาหารือจนเสร็จการ.