หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/11

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
(๓)

วันที่ ๒๔ กันยายน พ.ศ. ๓๔๕๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปเป็นปลัดมณฑลอุดร.

วันที่ ๑๐ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๕๓ ได้ไปเป็นผู้จัดการระงับปราบปรามพวกญวนที่คิดประทุษร้ายต่อประเทศฝรั่งเศสในเขตต์แขวงจังหวัดนครพนม สกลนคร.

วันที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๔๕๖ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ในมณฑลอุดร ถึง พ.ศ. ๒๔๖๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนบรรดาศักดิ์ขึ้นเป็นพระยาประเสริฐสุนทราศรัย ถือศักดินา ๓๐๐๐ ไร่ เมื่อวันที่ ๒๑ ธันวาคม

วันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๖๔ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ย้ายไปเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดตราษ มณฑลจันทบุรี.

ครั้นถึงวันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๖๗ รู้สึกตัวว่า ชรา พยาธิเบียดเบียฬ ร่างกายทุพพลภาพ ไม่สามารถที่จะรับราชการฉลองพระเดชพระคุณณตำแหน่งอันสำคัญนี้ได้ดังแต่ก่อนมา จึงได้กราบถวายบังคมลาจากราชการเพื่อพักผ่อนรักษาตัว ก็ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาต และพระราชทานเบี้ยบำนาญมาจนตลอดอายุ

พระยาประเสริฐสุนทราศรัยได้พยายามรักษาตัวต่อมาจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๑ ให้มีอาการอ่อนเพลียลงทุกที ได้ให้พระยาเวชสิทธิ์พิลาศ พระยาอัศวินอำนวยเวช (หมอปัว) และพระวรสุนทโรสถ ตรวจเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์นั้น ปรากฎว่า เป็นโรคตับพิการ แม้แพทย์ได้พยายามรักษาเป็นลำดับมา อาการไม่ทุเลา มีแต่ทรงกับซุด จนถึง