หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/20

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
7
๓ สุวรรณสังขชาดก

ครั้งนั้นแล พระบรมโพธิสัตว เมื่ออยู่ในครรภ์พระมารดา พิจารณาดูมารดา เห็นพระมารดาเสวยความทุกข์มากนัก จึ่งดำริว่า พระมารดาของเราพลัดพรากจากเมืองมา เป็นผู้อนาถาหาญาติพี่น้องมิได้ น่ากรุณานัก ถ้าหากว่าเราจะพึงเกิดด้วยสัณฐานเป็นรูปทองไซร้ พระมารดาจักเลี้ยงเราลำบากกว่าก่อนได้ร้อยเท่าพันส่วน ถ้ากะไร เราควรจักแปลงกายให้เป็นรูปหอยสังข์เสียเถิด คิดแล้วก็ทำสัจจาธิษฐานกลายไปเป็นรูปสังข์ทอง เมื่ออยู่ในครรภ์มารดาครบสิบเดือนแล้ว รูปสังข์ทองนั้นจึ่งออกจากครรภ์มารดางดงามยิ่งนักหนา พระนางจันทาเทวีจึ่งชำระคัพมลทินด้วยวารี แล้วจึ่งรักษาพระมหาสัตวอยู่สิ้นกาลนาน

วันหนึ่ง จึ่งพระนางจันทาเทวีเสด็จไปสู่ป่าด้วยกิจอันหนึ่ง พระสุวรรณสังข์โพธิสัตวออกจากรูปหอยสังข์ แล้วทำการปัดกวาเรือนและที่นอนของมารดา แล้วก็เข้าไปยังที่อยู่แห่งรูปหอยสังข์ตามเดิม ครั้นพระนางจันทาเทวีกลับจากป่า เห็นเรือนอันกวาดปัดไว้ดี มีจิตต์โสมนัส จึ่งกำหนดนิ่งไว้ในหทัย หาได้บอกให้ใคร ๆ รู้ไม่ วันหนึ่ง จึ่งนางจันทาเทวีเสด็จไปป่าด้วยกิจอันหนึ่งอีก พระบรมโพธิสัตวจึ่งออกจากรูปหอยสังข์ ปัดกวาดที่นอนในห้องเรือน และเก็บงำสิ่งของที่กระจาย ลำดับไว้ในที่อันสมควร แล้วก็กลับเข้าไปยังที่อยู่ของตน พระนางจันทาเทวี เมื่อกลับมาเห็นดังนั้น ก็อัศจรรย์ใจ ไม่รู้จักเหตุที่โอรสกระทำไว้ให้ จึ่งดำริว่า นี่อัศจรรย์นัก อะไรจักมีแก่เรา คิดแล้วก็หาได้บอกให้ใครรู้ไม่ วันหนึ่ง จึ่งพระนางจันทาเทวีทำอาการเหมือนจะไปป่า แง้มประดูเรือนไว้หน่อยหนึ่ง