หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/25

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
12
ปัญญาสชาดก

คราวนั้น พระโพธิสัตวหน่อพระพุทธเจ้า เมื่อลอยมากับแพถูกลมร้ายพัดแพแตกแล้ว ได้พลัดจากกันกับมารดา เสวยทุกขเวทนาอยู่ในมหาสมุทร์ ด้วยเดชบุญของพระมหาบุรุษนั้น นาคพิภพแสดงความร้อนปรากฎขึ้น พระยานาคเจ้าของพิภพขึ้นจากนาคพิภพไปยังมหาสมุทร์ นิรมิตเรือทองขึ้นลำหนึ่ง จัดแจงแต่งเรือนมียอดเจ็ดยอด (ปุสบก) ไว้ในท่ามกลางเรือทอง นำเรือนั้นไปใกล้พระมหาสัตว อุ้มพระมหาสัตวขึ้นเรือได้ ให้นั่งอยู่ในกุฏาคาร แล้วปล่อยให้เรือนั้นลอยไป สุวรรณนาวาลอยไปถึงเกาะแห่งหนึ่ง เกาะนั้นมีต้นไม้ดกดาดไปด้วยดอกและผลน่ารื่นรมย์ ระงมไปด้วยเสียงมยุรโกญจาเสนาะเพราะจับใจ อาจเปลื้องความโศกออกเสียได้เมื่อมีผู้มาเห็น

พระสุวรรณสังขกุมารขึ้นจากสุวรรณนาวาได้แล้ว ดำเนินชมไม้ต่าง ๆ ออกจากที่นั้นไป เห็นสระแห่งหนึ่ง สะพรั่งไปด้วยบัวแดงและบัวขาว ฝูงเต่าปลาแหวกว่ายอยู่คล้าคล่ำ ชมดอกไม้ที่ริมฝั่งนที แล้วดำเนินแต่นั้นไป จึ่งได้พบพระฤษีองค์หนึ่งนั่งเจริญจตุพรหมวิหารอยู่ณอาศรม จึ่งดำเนินเข้าไปใกล้ ยกหัตถ์ไหว้นั่งอยู่ส่วนหนึ่ง พระฤษีนั้นครั้นเห็นสุวรรณกุมารก็ดีใจ จึ่งซักถามว่า พ่อมานพคนเดียวโดดอนาถามาธุระสิ่งไรหรือ ฯ พระโพธิสัตวทำการปราไสแล้วแจ้งว่า ข้าแต่พระฤษีผู้เจริญ ข้าพเจ้าเป็นราชโอรสพระเจ้าพรหมทัตต์ณพรหมบุรีนคร พระราชานั้นจับข้าพเจ้ากับมารดาใส่ในแพใหญ่ลอยเสียในคงคา เมื่อแพลอยมาถูกลมพัดแพแตก พลัดกับมารดาลอยมาตามกระแสคงคา พระยานาคมีความกรุณามายกข้าพเจ้าขึ้นไว้ในเรือทอง ข้าพเจ้ามาถึง