หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/26

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
13
๓ สุวรรณสังขชาดก

สำนักพระผู้เป็นเจ้าด้วยเรือทองลำนั้น ถ้าหากว่ามรรคาที่จะเดินไปยังเมืองทั้งปวงมีอยู่ไซร้ พระผู้เป็นเจ้าจงโปรดบอกมรรคานั้นให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถิด

พระดาบศจึ่งพูดว่า ถ้าหากว่าพ่อจักไปทางเมืองพาราณสี มรรคาก็มีไป แต่มรรคานั้นเป็นที่อยู่ของหมู่ยักษ์ ฯ พระดาบศผู้เจริญ ถ้ามรรคาใดไปสวัสดีไซร้ ขอท่านบอกมรรคานั้นให้ข้าพเจ้า ฯ พ่อมานพผู้เจริญ ถ้าหากว่าพ่อจะไปเมืองพาราณสีไซร้ พ่อจงไปตามทางกระแสน้ำก่อน แล้วพ่อจักไปพบเมืองยักษินีในระวางทาง ยักษินีเหล่านั้นพบพ่อแล้วจักลงมาจับเอาพ่อไป แต่ไม่อาจทำอันตรายแก่พ่อได้ บอกแล้วจึ่งพร้อมด้วยพระโพธิสัตวไปถึงเรือทองซึ่งจอดอยู่ท่าน้ำ ให้พระโพธิสัตวนั่งในกุฏาคารแล้วปล่อยลอยไป สุวรรณนาวาลอยไปตามกระแสคงคา ไม่นานนักก็บรรลุถึงเมืองยักษ์ ในรัฐประเทศนั้น พระยายักษ์เจ้านายของพวกยักษ์ทำกาลกิริยาไปแล้ว นางยักษินีผู้เทวีได้รักษาเมืองอยู่กับยักษินีบริวาร พวกยักษินีเหล่านั้นพบพระโพธิสัตวลอยมาตามกระแสคงคา จึ่งพากันลงน้ำเพื่อจะจับเอาพระโพธิสัตวมากิน แต่หาอาจกินพระโพธิสัตวได้ไม่ มหานทีก็กำเริบเป็นคลื่นใหญ่ ท่วมทับยักษินีทั้งหลายให้กระเด็นไปใกลได้พันวา (ถึงความตายเสียเป็นอันมาก) นางยักษินีพวกที่เหลือจากตายสะดุ้งตกใจกลัวนัก พากันไปสู่สำนักยักขเทวีแล้วบอกเล่าว่า พระแม่เจ้า สุวรรณนาวากับกุมารน้อยลอยมาในคงคา พวกข้าพเจ้าทั้งปวงรีบลงน้ำจะไปจับกุมารนั้นมา ปราร์ถนาจะให้แก่แม่เจ้า น้ำในคงคากำเริบเป็นคลื่นใหญ่ พวกยักษินีจมน้ำตายเสียเป็นอันมากด้วยกำลังน้ำพัดไป