หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/38

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
25
๓ สุวรรณสังขชาดก

ทรงพระสรวล และจักไม่ทำสัจจาธิษฐาน เจ้าจงหลีกไปนั่งเสียที่อื่น พระโพธิสัตวถูกมหาชนบ่นว่าดังนั้น เธอก็นั่งนิ่งอยู่ในที่นั้น

พระนางคันธารีเทวีจึ่งทำสัจจาธิษฐานต่อหน้าพระที่นั่งและต่อหน้ามหาชนว่า ข้าแต่ฝูงเทพดาผู้เจริญ ท่านทั้งหลาย คือ คนธรรพ์และนาคครุฑก็ดี ท้าวโกสีย์และมหาพรหมก็ดี เทพดาผู้รักษาแผ่นดินและรักษาพระนครก็ดี จงมาพร้อมกันสะดับฟังสัจจกิริยวาจาของข้าพเจ้า ๆ จักทำเสี่ยงทายด้วยพวงมาลานี้ ถ้าหากว่า บุรุษคนใดเคยได้อยู่ร่วมกับข้าพเจ้ามาในกาลปางก่อนไซร้ ขอให้พวงมาลานี้จงลอยไปสรวมหัตถ์ของบุรุษคนนั้นเถิด นางทำสัจจกิริยาแล้ว ก็ยกพวงมาลาขึ้นทูนเศียร แล้วก็โยนไปในอากาศ พวงมาลานั้นลอยไปทำปทักษิณปราสาทสามรอบ แล้วก็ลอยลงจากอากาศเข้าไปสวมหัตถ์ขวาของพระมหาสัตว์ด้วยประการฉะนี้ มหาชนทั้งหลาย มีอำมาตย์เป็นต้น เห็นพวงมาลาลอยมาสวมหัตถ์พระโพธิสัตว์ดังนั้น พากันเข้าไปจะแย่งเอาพวงมาลานั้น ก็ไม่อาจแย่งเอาไปได้ พากันร้องติเตียนพระนางคันธาเทวีว่า พวงมาลานี้สวมมือเจ้าเงาะป่าเสียแล้ว ในชาติปางก่อนพระราชเทวีอาศัยกรรมที่เธอทำไว้ จึ่งมาได้สามีรูปทุรพล

พระราชาทอดพระเนตรเห็นพวงมาลาสวมหัตถ์พระโพธิสัตว์แล้ว ตรัสว่า ตามบุญตามกรรมของลูกเราเขาทำไว้แล้วในกาลปางก่อน พระองค์จึ่งให้เตรียมพิธีสรงน้ำราชาภิเษกตามเยี่ยงอย่างที่เคยมีมา แล้วจึ่งบังคับพระโพธิสัตวจะให้สรงน้ำราชาภิเษก พระโพธิสัตวจึ่งดำริว่า