หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/41

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
28
ปัญญาสชาดก

มาก ทั้งอาวุธก็มีพร้อม จักหาเนื้อได้ดี หารือกันแล้วก็ชวนกันไปป่า เที่ยวเสาะหาเนื้อสิ้นวันยังค่ำก็ไม่พบเนื้อ เหน็ดเหนื่อยเข้าแล้วจึ่งชวนกันหยุดพักเสวยอาหารแล้วหารือกันอีกว่า ถ้าหากว่าพวกเราไม่ได้เนื้อไปถวายพระราชาไซร้ พระราชาจักฆ่าพวกเราเสีย (เราจักแก้ไขอย่างไรดี)

พระโพธิสัตวกลับจากเฝ้าแล้วเดินนึกไปว่า เราจักหาเนื้อถวายพระราชาให้จงได้ ครั้นมาถึงที่พักแล้วจึ่งบอกกะคันธาเทวีว่า บัดนี้ พระราชบิดารับสั่งหาตัวพี่ไปเฝ้า บังคับให้พี่หาเนื้อถวาย พระราชบิดาจะพระราชทานทรัพย์ให้เป็นรางวัล ถ้าหากว่าพี่หาเนื้อถวายไม่ได้ พระราชบิดาจักให้ฆ่าพี่เสีย พี่จะลานางน้องไปป่าเที่ยวหาเนื้อถวายพระราชบิดาให้ได้ ฯ ข้าแต่ภัศดา พระภัศดาจักไปป่าองค์เดียวกะไรได้ ธรรมดาว่าป่า มากไปด้วยเสือและช้าง ภูตปิศาจอันตรายก็มีมาก หม่อมฉันขอตามพระองค์ไปเป็นเพื่อนด้วย ฯ นางน้องอย่าไปกับพี่เลย พี่จะได้กลัวเสือช้างภูตปิศาจก็หาไม่ พระน้องอย่าไปกับพี่เลย ฟังพี่ว่า

เมื่อพระโพธิสัตวห้ามดังนี้แล้ว จึ่งทรงฉลองพระบาททองและพระขรรค์แก้ว แล้วสวมเกราะรูปเงาะป่ากับกายเหาะไปในอากาศ งามราวกะว่าสุวรรณราชหงส์เสด็จไปถึงป่า จึงลงประทับนั่งเหนือแผ่นสิลาแห่งหนึ่ง เปลื้องรูปเงาะป่าออกวางไว้ พระฉวีวรรณสรีกายงามผ่องใสดุจทองคำ รัศมีนั้นแผ่ซ่านสว่างไปทั่วป่า ทรงร่ายทิพมนต์ซึ่งนางยักขินีมารดาเลี้ยงให้ไว้ เรียกฝูงเนื้อทั้งหลายมาประชุมกัน แล้วอธิษฐานว่า เนื้อเหล่าใดยังไม่ถึงอนิจกรรม เนื้อเหล่านั้นจงหนีไปเสีย เนื้อเหล่าใดถึงอนิจจมรณะแล้ว เนื้อเหล่านั้นจงตายฉะเพาะหน้าเรา ครั้งนั้น เนื้อเหล่าใดยังไม่ถึง