หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/42

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
29
๓ สุวรรณสังขชาดก

มรณะ เนื้อเหล่านั้นก็พากันหนีไป เนื้อเหล่าใดถึงอนิจจมรณะแล้ว เนื้อเหล่านั้นก็ถึงมรณะฉะเพาะหน้าพระโพธิสัตว ด้วยอำนาจอธิษฐานบารมี

ทีนั้น ราชบุตรเขยหกองค์เที่ยวเสาะหามฤคไปในป่า จะได้พบเนื้อแม้ตัวหนึ่งก็หาไม่ เที่ยวค้นไปข้างทิศอุดร เห็นพระโพธิสัตวนั่งอยู่ณะแผ่นสิลา เปล่งรัศมีงามดุจทองคำ ก็พากันสะดุ้งตกใจกลัว ปรึกษากันว่า ผู้นี้หาใช่มนุษย์ไม่ จักเป็นเทพดาแน่ทีเดียว ปรึกษากนแล้ว จึ่งเข้าไปหาพระโพธิสัตว กราบไหว้แล้วถามว่า ท่านเป็นพรหมินทรหรือครุฑนาคและคนธรรพ์ ไฉนท่านมาอยู่ที่นี้เล่า ท่านจงกรุณาให้เนื้อแก่พวกข้าพเจ้าคนละตัวเถิด ข้าพเจ้าทั้งหลายจะนำไปถวายพระราชา ถ้าหากว่าได้เมตตาให้เนื้อแก่ข้าพเจ้า ๆ จักได้รางวัลเป็นมากแต่ราชสำนัก ถ้าหากว่าท่านไม่เมตตาให้เนื้อแก่พวกข้าพเจ้า ๆ จักถึงซึ่งความตายเที่ยงแท้

พระโพธิสัตวจึ่งตรัสว่า ตัวเราหาใช่ท้าวสักกะ หาใช่คนธรรพ์ไม่ เราเป็นมนุษย์ อยู่แว่นแคว้นเมืองพาราณสี พวกท่านมาขอเนื้อกะเรา ๆ จักให้แก่พวกท่าน ๆ จักบูชาเราด้วยสิ่งอันใด ฯ พวกข้าพเจ้าจะบูชาท่านด้วยแก้วเจ็ดประการบ้าง ด้วยโคและกระบือทั้งหลายบ้าง ฯ เราไม่ต้องการสิ่งของเหล่านั้น เราต้องการใบหูของท่านคนละหน่อย ฯ ท่านจะให้พวกข้าพเจ้าตัดใบหูบูชา พวกข้าพเจ้าไม่อาจอดกลั้นทุกขเวทนาได้ ฯ ถ้าหากว่าพวกท่านทำไม่ได้อย่างนั้นไซร้ เราก็ให้เนื้อแก่พวกท่านไม่ได้เหมือกัน กุมารราชบุตรเขยทั้งหกจึ่งปรึกษากันว่า ถ้าหากว่าพวกเราไม่ให้ใบหูแก่เขา ๆ ก็ไม่ให้เนื้อแก่พวกเรา เราพร้อมยอมกันให้ใบหู