หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/44

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
31
๓ สุวรรณสังขชาดก

พระเจ้ากรุงพาราณสีแกล้งใส่โทษแก่พระโพธิสัตวไม่ได้แล้ว จึ่งคิดหาอุบายอีกต่อไป เราจักฆ่าเจ้าเงาะป่าด้วยอุบายบังคับให้หาสุกรมาให้เราเถิด ดำริแล้วจึ่งรับสั่งให้หกกษัตริย์ (คือ บุตรเขยทั้งหก) เข้ามาบังคับว่า เธอทั้งหกจงไปหาสุกรมาให้เราคนละตัว ถ้าหากว่าหามาให้เราไม่ได้ไซร้ เราจะให้ลงราชอาชญาแก่พวกเธอ ตรัสกะหกกษัตริย์แล้ว จึ่งรับสั่งให้หาราชบุรุษไปบอกแก่พระโพธิสัตวเหมือนกะที่บังคับหกกษัตริย์ไว้แล้วนั้น หกกษัตริย์เรียกบริวารมาพร้อมแล้ว ผูกสอดเบ็ญจาวุธเสร็จ เสด็จไปสู่ป่า ก็ไม่พบสุกรที่จะนำไปถวายแต่สักตัวหนึ่งเลย

พระโพธิสัตวนึกว่า เวลานี้เป็นเวลาควรที่เราจะไปป่า จึ่งทรงปาทุกาและพระขรรค์แก้วแล้วเหาะไป ครั้นถึงป่าใหญ่ ได้ลงนั่งประทับเหนือแผ่นสิลา งามโสภาเหมือนรูปหล่อด้วยทองคำทั้งแท่ง สังวัธยายมนต์อันวิเศษชื่อ มณีจินดา เรียกฝูงสุกรให้มาสู่สำนักของตน ฝูงสุกรก็พากันมาสู่สำนักพระโพธิสัตวพร้อมกัน พระโพธิสัตวจึ่งทำสุกรเป็นและสุกรจะตายให้อยู่เป็นแผนกกัน ด้วยอำนาจสัจจกิริยาเหมือนนัยดังกล่าวมาแล้วนั้น

หกกษัตริย์ (คือ เขยทั้งหก) เหล่านั้น ครั้นเที่ยวหาสุกรไปตามป่า ได้พบพระโพธิสัตวนั่งอยู่ณแผ่นสิลา เปล่งรัศมีงามดุจทองคำ จึ่งพากันเข้าหาพระโพธิสัตว กราบไหว้วิงวอนขอสุกร พระโพธิสัตวถามหกกษัตริย์ว่า ท่านทั้งหลายอยากได้สุกรไปทำอะไร ฯ ข้าแต่เทวดา ข้าพเจ้าทั้งหลายอยากได้สุกรไปถวายพระราชา พระราชาต้องประสงค์จะฆ่าเจ้าเงาะป่า ทรงบังคับข้าพเจ้าทั้งหลายให้มาหาสุกรกับเจ้าเงาะป่า