หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/52

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
39
๓ สุวรรณสังขชาดก

ประกาศแล้วก็ถอดรูปเงาะป่าออกจากกาย ทรงฉลองพระบาททิพรัตน และทรงจับพระขรรค์แก้วด้วยหัตถ์เบื้องขวา เหาะขึ้นบนอากาศ งามโอภาสดังสุวรรณราชหงส์ ทรงประทับลอยอยู่ท่ามกลางอากาศ พวกอำมาตย์และอาณาประชาราษฎรทั้งปวงเห็นพระโพธิสัตวทำอาการอย่างนั้น พากันประณมมือและให้สาธุการชมเชยพระโพธิสัตวโดยอเนกปริยาย

ท้าวมัฆวานจึ่งเข้าใกล้พระโพธิสัตว ถามปัญหาว่า แน่ะพ่อปราชญ สภาวธรรมสิ่งไรย่อมทำให้มืดในโลกนี้และโลกหน้า พ่อปราชญ์จงวิสัชนาความข้อนี้ให้แจ้งชัดแก่พวกเทวดาและมนุษซึ่งมาประชุมกันณพื้นดินถึงณพื้นอากาศ พระโพธิสัตวเมื่อจะกล่าวแก้ปัญหาจึ่งทูลว่า ข้าแต่ท้าวสักกเทวราช บุทคลผู้ใดทำโทษแก่ผู้อื่นที่ไม่มีความผิด ทำคนอื่นให้วิวาทซึ่งกันและกัน และทำปัญจานันตริยกรรม มีฆ่ามารดาเป็นต้น ไม่ฟังธรรมคำสอนของนักปราชญ์ กอปด้วยปาปจิตต์ บุทคลผู้นั้นชื่อว่า ทำความมืดในโลกนี้และโลกหน้า ข้าแต่เทวราช พระองค์จงทราบเนื้อความอย่างนี้แล ทีนั้น สรรพเทวา มีท้าวสักกะเป็นต้น ทำบูชาพระโพธิสัตวด้วยเข้าตอกและดอกไม้ และให้สาธุการเสียงสนั่นหวั่นไหว

ท้าวสหัสนัยน์จึ่งถามปัญหาที่สองว่า แน่ะพ่อปราชญ์ สภาวธรรมสิ่งไรเป็นแสงสว่างในโลกนี้และโลกหน้า พ่อปราชญ์จงวิสัชนาความข้อนี้ให้แจ้งชัด พระโพธิสัตวจึ่งทูลว่า ข้าแต่ท้าวสักกเทวราช บุทคลผู้ใดตั้งอยู่ในศีลห้าศีลแปด และบริจาคทานแก่ยาจก หมั่นสดับธรรมคำสอนของนักปราชญ์ มีจิตต์เมตตาสาปรานีแก่สัตวทั่วไป ตั้งอยู่ในคุณพระรัตนไตร ตลอดถึงมรรคและผล บุทคลผู้นั้นชื่อว่า สว่างไพโรจในโลกนและโลกหน้า