หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/55

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว


พระเจ้ากรุงพาราณสีรับสั่งให้มหาเสนาและราชปุโรหิตเป็นต้นมาประชุมพร้อมกันณปราสาท จึ่งเชิญพระโพธิสัตวกับนางคันธาเทวีให้ขึ้นนั่งเหนือรัตนราสีกองแก้ว แล้วสรงน้ำมุรธาภิเษก มอบราชสมบัติ แล้วอวยพรชัยว่า เธอทั้งสองผู้มีบุญมาก จงเป็นอิศรภาพทั่วสากลทวีป และจงขอให้มีชนมายุยืนนานนิราศโรคภัย บิดามารดาจะขออาศัยพึ่งโพธิสมภารอยู่เป็นสุขต่อไป พระโพธิสัตวได้ดำรงราชสมบัติณพาราณสีนคร พระนามปรากฎว่า สุวรรณสังขราชา มีเกียรติยศและเกียรติคุณแผ่ไปในสากลทวีป ตั้งแต่ครั้งนั้นมา เมืองพาราณสีบริบูรณ์ไปด้วยวัตถาภรณ์ อุดมไปด้วยเข้ากล้า ฝนฟ้าก็ตกตามฤดูกาล ทั้งบริบูรณ์ด้วยแก้วเจ็ดประการ ทวยราษฎรก็เบิกบานอยู่เป็นสุข มีการมหรศพครึกครื้นทุกคืนวัน

เมื่อพระมหาสัตวครองราชสมบัติอยู่เป็นสุขสำราญ ทรงระลึกถึงพระมารดาขึ้นมา จึ่งดำริว่า เราพลัดพรากจากมารดามานาน ยังไม่ทราบเหตุว่า มารดายังทรงชนมชีพอยู่หรือสิ้นชนมชีพเสียแล้ว ถ้ากะไร เราจักไปสืบถามตามนิคมและราชธานี เมื่อพบประพระชนนีแล้ว จะได้รับกลับมาเสวยราชเป็นสุขต่อไป ดำริแล้วจึ่งตรัสกะนางคันธาเทวีว่า บัดนี้ พี่กับน้องนางเสวยราชสมบัติอยู่เป็นสุขแล้ว แต่พระมารดาของพี่ท่านจะสิ้นชีพเสียแล้ว หรือยังจะอยู่ที่ไหน พี่ไม่ทราบเลย พระน้องนางจงอยู่เสวยราชสมบัติไปก่อน พี่จะขอลาไปสืบหาพระมารดา พบแล้วจะได้พาท่านกลับมาเสวยราชสมบัติณเมืองนี้ด้วยกัน พระโพธิสัตวลาพระนางคันธาเทวีแล้วเสด็จลงจากปราสาทไปเฝ้าพระเจ้าพาราณสี ทูลเล่าเหตุ