หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/57

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
44
ปัญญาสชาดก

พระโพธิสัตวเห็นพระมารดานั่งอยู่ก็จำไม่ได้ เพราะพลัดพรากจากกันมานานแต่เมื่อพระองค์ยังเด็กเล็กนัก พระองค์จึ่งถามว่า แม่อยู่เมืองไหน จึ่งได้มาเป็นแม่ครัวของเศรษฐี พระนางจันทาเทวีจึ่งเล่าความหลังให้ฟังว่า พ่อมานพรูปงาม ตัวดีฉันอยู่เมืองพรหมบุรี เป็นอัครมเหษีของพระเจ้าพรหมทัตต์ มีโอรสนามปรากฎว่า สุวรรณสังข์ นางสุวรรณจัมปาก มเหษีฝ่ายซ้าย คบคิดกับปาลกเสนาบดีแกล้งทูลยุงยงแด่พระราชาว่า ราชโอรสเป็นอุบาทว์เมือง ไม่ควรจะให้อยู่ในเมือง ให้เอาโอรสใส่แพกับมารดาลอยน้ำเสีย พระเจ้าพรหมทัตต์หลงเชื่อ จึ่งเอาตัวดีฉันกับโอรสใส่แพลอยน้ำไป ภายหลังแพก็แตก ดีฉันกับโอรสก็พลัดกัน ดีฉันขึ้นฝั่งน้ำได้ แล้วจึ่งเลยมาเป็นแม่ครัวของเศรษฐีอยู่ที่นี้ แต่สุวรรณสังขกุมารโอรสนั้นจะเป็นหรือตายดีฉันไม่ทราบเลย

พระสุวรรณสังขราชาทราบชัดว่า เป็นมารดาของพระองค์แน่แล้ว จึ่งตรัสว่า พระมารดาเจ้าข้า หม่อมฉันนี่แหละเป็นโอรสของมารดา มีนามว่า สุวรรณสังข์ พระนางจันทาเทวีทรงฟังดังนั้น ก็ตรงเข้าสวมกอดพระโอรส ไต่ถามถึงความทุกข์ยากแล้วพิลาปร่ำไร เมื่อสองกษัตริย์บรรเทาความโศกเสียได้แล้ว พระสุวรรณสังขราชาจึ่งรับสั่งกับเศรษฐีว่า ท่านมหาเศรษฐี เราจะขอลาเอามารดาของเราไป ให้ท่านเสวยราชสมบัติในเมืองพาราณสี ฯ ข้าแต่พระสุวรรณสังขราช พระมารดาของพระองค์มาอยู่กับข้าพระบาท ๆ มิได้รู้ว่า เป็นพระมารดาของพระองค์เลย พระองค์จงรับพระมารดาไปตามพระทัยพระสงค์เถิด พระเจ้าข้า พระ