หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/67

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
54
ปัญญาสชาดก

ทำครัวอยู่กับธนญชัยเศรษฐี พระมหาราช ส่วนข้าพระบาทอาศัยเรือพระยานาคนิรมิตให้ แล้วลอยไปพบพระดาบศองค์หนึ่ง ท่านกรุณาพาส่งข้ามไปฝั่งอื่น ข้าพระพุทธเจ้าลอยเรือเลียบตามฝั่งนั้นมาพบยักขินีตนหนึ่งริมฝั่งนที ยักขินีนั้นพามาเลี้ยงไว้เป็นบุตรบุญธรรม ข้าพระพุทธเจ้าหนีจากเมืองยักข์มาถึงบ้านคนเลี้ยงโคแห่งหนึ่ง จึ่งอาศัยอยู่กับนายคามโภชก รับจ้างเขาแลี้ยงโคเลี้ยงชีพอยู่ที่นั่นนาน ภายหลังจึ่งได้ราชบุตรีพระเจ้าพาราณสีเป็นชายา ต่อเมื่อข้าพระพุทธเจ้าได้เป็นลูกเขยพระเจ้าพาราณสีจึ่งมีความสุขมาก ข้าพระพุทธเจ้าระลึกถึงพระมารดาขึ้นมา จึ่งเที่ยวติดตามถามหา ได้พบพระมารดาที่เรือนธนญชัยเศรษฐี จึ่งรับพระมารดามาเสวยรัชชสุขณเมืองพาราณสีอยู่ตราบเท่าพระองค์ส่งมหาเสนาบดีให้ไปรับมา ความวิโยคทุกข์ยากของลูกกับพระมารดาหากเป็นถึงเพียงนี้ นี่หากว่ากุศลหนหลังยังมี จึ่งได้มาประสบพบฝ่าพระบาทราชบิดา

พระเจ้าพรหมทัตต์จึ่งตรัสปลอบว่า บิดาหลงเชื่อคำคนอันธพาล ทำโทษให้พ่อเป็นนักหนา พระโอรสจงอดโทษให้บิดาผู้หาวิจารณปัญญามิได้ พระโพธิสัตว์อดโทษให้พระราชบิดาแล้ว แต่นั้นมา พระองค์ได้เสวยราชสมบัติเป็นอัครราชา ตั้งอยู่ในทสธรรม ชักนำประชาชนให้ตั้งอยู่ในทสกุศลกรรมบถและศีลห้าเป็นต้น

ทีนี้ จะกล่าวถึงปาลกเสนาบดีต่อไป ใจความว่า เมื่อสุวรรณสังขราชกุมารเสด็จเข้ามาถึงพรหมบุรี ปาลกเสนาบดีนึกสะดุ้งจิตต์คิดไปว่า พระสุวรรณสังขราชกุมารมาได้ผ่านราชสมบัติณเมืองนี้ จักทรงพิโรธทำโทษแก่เรา ๆ จักหนีไปเสียณเมืองอื่น จักพาเอาพลโยธามา