หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/68

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
55
๓ สุวรรณสังขชาดก

จับพระสุวรรณสังขราชกุมารกับพระมารดาฆ่าเสียจงได้ ปาลกเสนาบดีคิดเสร็จแล้วก็หนีไปเมืองปัญจาลธานี เข้าไปเฝ้าพระเจ้าปัญจาลราช ทูลด้วยปิสุณาวาทว่า สมมติเทวา บัดนี้ พระสุวรรณสังขราชกุมารผ่านราชสมบัติเป็นเอกราชแล้ว จัดเตรียมโยธาไว้มากมาย จักยกมาตีเมืองพระองค์แย่งสมบัติเมืองนี้อีก ข้าพระพุทธเจ้าทราบเกล้าแล้วจึ่งมาเฝ้ากราบทูลให้ทรงทราบฝ่าพระบาท

พระเจ้าปัญจาลราชทรงฟังดังนั้น สำคัญว่าจริง ทรงพระโกรธาเป็นอันมาก จึ่งรับสั่งอำมาตย์ให้เอาเภรีไปตีประกาศให้พลเมืองมาประชุมพร้อมกัน ชาวพระนครประมาณเจ็ดอโขเภณีได้มาประชุมพร้อมกันณหน้าพระลานหลวง พระราชาทรงเล่าความทั้งปวงให้มหาชนมีมหาอำมาตย์เป็นต้นฟัง แล้วจัดปาลกเสนาบดีผู้รับอาสาให้คุมเสนาพยุหเป็นทัพหน้ายกไปก่อน จึ่งจัดมหาอำมาตย์ของพระองค์เป็นแม่ทัพใหญ่ให้คุมเสนาพยุหยกตามไปภายหลัง แม่ทัพนายกองได้เดินกองทัพไปถึงพรหมบุรีตามลำดับ เสนาเจ็ดอโขเภณีจึ่งพร้อมกันล้อมเมืองเข้าไว้ถึงเจ็ดชั้น เสียงโยธาโห่สนั่นหวั่นไหวปานประหนึ่งว่าปถพีและพระนครจะทรุดหักทำลายไป โยธาบางพวกก็พากันร้องว่า พวกเราจงช่วยกันพังกำแพงเมืองเข้าไป โยธาบางพวกก็พากันร้องว่า พวกเราจงช่วยกันจับพระเจ้าพรหมทัตต์กับสุวรรณสังขราชาฆ่าเสียให้ได้

คราวนั้น ชาวนครพรหมบุรีได้ฟังเสียงมหาโยธามีหัตถานิกเป็นต้น ก็เกิดขนพองสยองเกล้า ปรึกษากันว่า เมื่อปัจจามิตรมาติดเมืองอยู่มากมายนัก บัดนี้ พวกเราจักคิดอย่างไร จึ่งจะพ้นภัยได้