หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/70

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
57
๓ สุวรรณสังขชาดก

ประหนึ่งว่าจะมีศีร์ษะแตกออกไป พากันร้องขอชีวิตต่อพระโพธิสัตว์ว่า พระมหาราช ข้าพระบาททั้งหลายจะไม่คิดประทุษฐร้ายต่อพระองค์ ๆ จงประทานชีวิตให้เถิดพระเจ้าข้า

ฝ่ายปาลกเสนาบดีก็ไม่อาจดำรงตนอยู่ได้ ด้วยอิทธานุภาพแห่งพระขรรค์แก้วสิริชัย จึ่งพลัดจากคอช้างตกลงไปณปถพี วิบากแห่งอกุศลความอกตัญญูให้ผล ปถพีดลอันหนาได้สองแสนสี่หมื่นโยชน์ก็เปิดช่องให้ ปาลกเสนาบดีก็จมลงไปไหม้อยู่ในอเวจีนรก

เตน วุตฺตํ เพราะเหตุนั้น พระโบราณาจารย์ท่านได้กล่าวสอนไว้แล้วว่า บุทคลผู้ใดกล่าวมุสาวาทใส่โทษแก่ผู้อื่นก็ดี แก่ญาติเผ่าพันธุ์มิตรสะหายก็ดี หรือใส่โทษแก่ครูอาจารย์และท่านผู้มีคุณแก่ตนก็ดี บุทคลผู้นั้น ครั้นตายแล้ว ก็จักไปเกิดในอเวจีนรก เหมือนปาลกเสนาบดีฉะนั้น

พระโพธิสัตว์ทรงพระกรุณาแก่มหาชนเป็นอันมาก จึ่งตรัสว่า พวกมหาโยธาทั้งหลาย พระเจ้ากรุงปัญจาลราชทรงเชื่อคำปาลกเสนาบดีคนลามก ให้ยกกองทัพมาทำสงครามกับเราผู้หาความผิดมิได้ และละสัปปุริสธรรม แล้วทำซึ่งอธรรมทางอบาย แต่นี้ไป ท่านทั้งหลายจงอย่าทำบาปกรรมเช่นนี้ต่อไปเป็นอันขาด ทรงให้โอวาทต่อไปอีกว่า บุทคลผู้ใดฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ทำปรทารกรรม กล่าวปด เสพสุราเมรัย บุทคลผู้นั้นจักถึงความพินาศเหมือนปาลกเสนาบดี อนึ่ง ฝ่ายกุศลธรรม คือ ศีล ทาน ธรรมสวนะ และเมตตา ภาวนา กุเลเชฏฐาปจายิกธรรม เหล่านี้มี