หน้า:ปัญญาส (๑๙) - ๒๔๗๑.pdf/73

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
60
ปัญญาสชาดก

แงะเอาดินเหนียวมาก้อนหนึ่ง ทำให้เป็นโพรง แล้วเอาปูนั้นใส่ไว้ในอุโมงค์ วางไว้บนแพ ปล่อยให้ลอยไปในมหาสมุทร เมื่อปูนั้นลอยไป ยังหาทันตายไม่ แพนั้นลอยไปติดอยู่ริมฝั่งสมุทร อุโมงค์ดินนั้นครั้นถูกน้ำเปียกแล้วก็ละลายไป ปูตัวนั้นก็ไต่ขึ้นฝั่งน้ำไปได้ ด้วยผลกรรมอันนั้น ตถาคตจึ่งปรากฏอยู่ในหอยสังข์ ดูกร ภิกษุทั้งหลาย พระเจ้าพรหมทัตต์เชื่อคำนางจัมปากเทวีและปาลกเสนาบดี จับเราตถาคตใส่แพลอยไปในมหาสมุทรนั้น ด้วยกรรมที่ตถาคตจับปูใส่แพลอยน้ำ ปูตัวนั้นหาถึงความตายไม่ กรรมอันนั้นจึ่งไม่ทำให้เราตถาคตตาย เราตถาคตได้เสวยทุกขเวทนาแสนสาหัส ดูกร ภิกษุบริษัท ข้อซึ่งเราตถาคตยินดีอยู่ในรูปหอยสังข์และรูปเงาะนี้ เป็นกรรมที่ตถาคตจับปูใส่ไว้ในอุโมงค์ดิน ข้อซึ่งหกกษัตริย์ลูกเขยพระเจ้าพาราณสีเห็นรูปเงาะตถาคตแล้วติเตียนนี้ เป็นเวรกรรมที่ตถาคตทำไว้ในชาติก่อน ดังมีอุทาหรณ์ดังนี้ว่า

อหํ ภิกฺขเว ปุพฺเพ พาราณสิราชา อโหสิ ความว่า ดูกร ภิกษุทั้งหลาย ในกาลปางก่อน ตถาคตเกิดเป็นพระราชาพาราณสี ๆ นั้นประสงค์จะถวายผ้าแก่ภิกษุสงฆ์ ทรงทราบว่า พวกพ่อค้าเขาเอาผ้าเนื้อดี ๆ มาจำหน่ายที่พระนครของพระองค์ จึ่งทรงตรัสใช้ให้อำมาตย์ไปซื้อผ้ามาจากพ่อค้า ผ้าผืนหนึ่งราคาถึงแสนกหาปณะ พระราชาทอดพระเนตรผ้าผืนนั้นแล้วทรงซื้อไว้ ประทานราคาให้เท่าน้ำหนักทองคำหนักหนึ่ง พวกพ่อค้าผ้าจึ่งปรึกษากันว่า พระราชาประทาน