หน้า:พงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ ๔ - ๒๔๗๗.pdf/99

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๓

บพิตร ถือศักดินา ๓๐,๐๐๐ จารึกในแผ่นทองคำเนื้อแปด พระราชทานกลดเสลี่ยงงา พระแสงประดับพลอยลงยาราชาวดี เป็นเครื่องยศอย่างเจ้าต่างกรม ถือตราจันทรมณฑลเทพบุตรชักรถ ให้สำเร็จราชการในพระนครทุกสิ่งทุกพนักงาน (คงว่าพระคลังสินค้าด้วย) แล้วโปรดฯ ให้ตั้งหลวงบำรุงปรมามาตย์ จางวาง ขุนวรบาทบริบาล ปลัดจางวาง หมื่นสรรพการกิจประสิทธิ สมุหบาญชี

จึงยกเอาพระยาราชสุภาวดีมาเป็นที่จักรี ได้นามว่า เจ้าพระยานิกรบดินทร มหินทรมหากัลยาณมิตร อเนกบุญฤทธิประสิทธิธาดา สาธุสิทธิคุณ วิบุลยศุภผล นิพัทธกุศลกิริยาภิรัต ธัญญธนสารสมบัติบริวารสมบูรณ อดุลยเมตยาชวาธยาศัย ศรีรัตนตรัยสรณารักษ อุดมศักดิพิเศษ นาครามาตยเชษฐมหาสมุหนายก สยามโลกดิลกบรมราชมหิศร สกโลตรทิศประเทศาธิบดี มหาราชสีหมุรธาธร อัครมหาดทยวริศรเสนาธิบดี อภัยพิรียบรากรมพาหุ ที่สมุหนายก จารึกนามในแผ่นทองคำเนื้อเจ็ด ได้พระราชทานเครื่องยศเพิ่มเติมแต่กระบี่จักรีเท่านั้น

จึงยกเอาท่านพระยาศรีสุริยวงศ (ช่วง) จางวางมหาดเล็ก ซึ่งเป็นบุตรผู้ใหญ่ของสมเด็จเจ้าพระยาองค์ใหญ่ มาว่าที่สมุหพระกลาโหม เพิ่มเติมนามออกไปว่า เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ สมันตพงศพิสุทธิ มหาบุรุษรัตโนดม ได้พระราชทานเครื่องยศเพิ่ม