พากำลังและนายทัพนายกองเข้าสู้รบกับกองทัพราชวงศ์ ราชวงศ์กับนายทัพนายกองและไพร่กำลังสู้ทนเจ้าพระยาราชสุภาวดีไม่ได้ เลยพากำลังหักทัพหลบตัวขึ้นมาถึงมูลเค็ง แขวงเมืองนครราชสีมา เจ้าพระยาราชสุภาวดีคุมกำลังตามกองทัพราชวงศ์ขึ้นมาถึงมูลเค็ง พบราชวงศ์กำลังอยู่ที่นั้น เจ้าพระยาราชสุภาวดีคุมกำลังเข้าสู้รบกับกองทัพราชวงศ์อยู่ที่มูลเค็ง แล้วพวกครอบครัวเมืองนครราชสีมาที่ราชวงศ์สู้รบได้ ว่าจะคุมขึ้นไปเมืองเวียงจันทบุรีนั้น ก็กลับสามิภักดิ์ต่อเจ้าพระยาราชสุภาวดี เข้าสู้รบกับกองทัพราชวงศ์ ราชวงศ์ทนไม่ได้ ก็เลยพากำลังหักจากกองทัพเจ้าพระยาราชสุภาวดีขึ้นมาถึงค่ายส้มป่อย แขวงเมืองศีร์ษะเกตุ แล้วเจ้าพระยาราชสุภาวดีพากำลังเข้าสู้รบกองทัพราชวงศ์ด้วยอาวุธสั้นยาว ราชวงศ์และนายหมวดนายกองสู้รบ ทนกองทัพเจ้าพระยาราชสุภาวดีไม่ได้ เลยพากำลังหักจากกองทัพเจ้าพระยาราชสุภาวดีกลับคืนไปเมืองเวียงจันทนบุรี แล้วเจ้าพระยาราชสุภาวดีจึงขึ้นมาตั้งอยู่เมืองยโสธร จัดเอานายหมวดนายกองและไพร่กำลังเมืองอุบลฯ ได้อุปฮาดเมืองเขมราฐคุมกำลังเมืองยโสธร ได้อุปฮาด ราชบุตร ท้าวฝ่าย ท้าวค่ำ ท้าวสุวอ และท้าวจันสีสุราช เป็นแม่ทัพคุมกำลัง ครั้นเจ้าพระยาราชสุภาวดีจัดได้นายหมวดนายกองและไพร่กำลังสิ้นเชิงแล้ว ถึงฤกษ์ยาม ก็เลยพานายหมวดนายกองและไพร่ยกจาก
หน้า:พงศาวดารอีสาน - แข้ ประทุมชาติ - ๒๔๗๒.pdf/18
หน้าตา