แบ่งไว้ให้เปน ๔ ส่วน แล้วกล่าวว่า ท่านจงเปนเจ้าของรักษาอยู่ในแว่นแคว้นนี้ ๆ ด้วยจิตรคิดฤษยาจองเวรว่า ให้ชนเหล่านี้ ๆ จงแย่งชิงกันเอง ฆ่ากันเอง ดังนี้แล้วก็กลับไปสู่นครแห่งตน
๗๔จริงอยู่ ชนทั้งหลายที่อยู่ในแว่นแคว้นนั้น ๆ เปนผู้มีสันดานมากไปด้วยโลภะโทสะโหมะครอบงำ และเปนผู้มีบุญญาธิการน้อย ปัญญาก็น้อย ไม่สามารถจะรักษาสิริ คือ ความเปนอิศรภาพ อยู่ได้ ต่างคนแย่งชิงฆ่าฟันซึ่งกันและกัน จนถึงความมหาวินาศ บางพวกที่มีกำลังพวกพลพาหนะมากก็ฉุดลากคนอื่นมาให้อยู่ในอำนาจของตน บางพวกควบคุมสมัคพรรคพวกได้มากแล้ว ก็เบียดเบียนคนอื่นให้ได้ความเดือดร้อน บางพวกได้กำลังพลพาหนะแล้ว ก็รักษาพวกของตนไว้ เข้าสู้รบกับปัจจามิตร บางทีก็ชนะ บางครั้งก็แพ้ ความวินาศได้เกิดขึ้นในกาลกลียุคมีกำลังดังนี้
๗๕ครั้งเมื่อกรุงศรีอยุธยามีความวินาศดังนี้ คราวนั้น ในแว่นแคว้นกรุงศรีอยุธยานั้น ชนที่มีอิศรภาพในนครของตน ๆ มีอยู่ ๔ นคร คือ พระยาพิษณุโลก ๑ พระยานครศรีธรรมราช ๑ พระยานครราชสีมา ๑ พระนายกอง ๑
๗๖บรรดาชนทั้ง ๔ นั้น พระยาพิษณุโลกที่อยู่ในเมืองพิษณุโลกนั้น ชนทั้งหลายรับพระโองการแล้ว ก็ให้ยกเสวตรฉัตรทำการราชาภิเสกเสร็จแล้ว จึ่งกรีธาพลใหญ่ไปรบกับพระครู