หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/16

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร

 จึงเจ้าฤๅษีสัชนาไลยแลเจ้าฤๅษีสิทธิมงคลทั้งสองพี่น้องมีอายุยืนได้ ๑๐๐ ปี แต่พระชินสีห์ยังดำรงสมบัติจนได้ตรัสแก่สัพพัญญุตญาณเป็นพระพุทธเจ้าโปรดสัตว์ทั้งหลาย ทสคาเม มีบ้านอันขึ้นแก่นางสารีอันเป็นมารดาพระสาริบุตรเถรเจ้า แลพราหมณ์ทั้ง ๑๐ บ้านย่อมเป็นลูกหลานเจ้าฤๅษีทั้งสอง มีอายุยืนได้ ๓๐๐ ปี สูง ๓ วา อายุได้ ๒๐๐ ปี สูง ๙ ศอก หมู่ชะพ่อชีพราหมณ์กินบวชแลทรงพรต บห่อนจะฆ่าสัตว์ จึงมีอายุยืน ผู้มีเวรจึงพลันตาย ผู้หาเวรมิได้อายุยืน เจ้าฤๅษีสัชนาไลยจึงว่าแก่เจ้าฤๅษีสิทธิมงคลว่า เราจะเข้านิพพานแล้ว เอ็นดูแก่ลูกหลานแห่งเราอันจะสืบไปในอนาคตกาล แล้วก็ให้โอวาทไว้ในพระพุทธศาสนากำกับไสยศาสตรให้ไว้ด้วยกัน แลเจ้าฤๅษีสัชนาไลยจึงให้ลูกหลานอันเป็นผู้เฒ่าผู้แก่กว่าชนทั้งหลาย จึงสั่งสอนว่า สูเจ้าทั้งหลายอันอยู่ทั้ง ๑๐ บ้าน อย่าประมาทลืมตน ทั้งฝั่งน้ำสมุทรก็หมดไปแล้ว เขาจะสร้างบ้านสร้างเมือง จะมีภัยเป็นอันมาก สูท่านจงชวนกันทำกำแพงกันตัว อย่าได้เมามัวแก่ตัณหา สาตราเร่งตกแต่งไว้ ผู้ใดถ้าเป็นใหญ่ให้ครอบครองกัน ชะพ่อชีพราหมณ์ภายหน้าจะเป็นคฤหัสถ์ตัดจุกเกล้า ฆ่าสัตว์ น้ำพิษพืชมูลชมพูจะกลายเป็นเหล้า ชะพ่อชีพราหมณ์จะมาทุกตำบล จะละคำพระทศพล จะเอาคำโทโสโลโภ มักได้ให้ท่านฉิบหาย ปู่จะสั่งเจ้าไว้ สูเจ้าจงเอาพนมเพลิงเข้าไว้ในเมืองเป็นที่สร้างพรตบูชากูณฑ์ ผู้เฒ่าจะสั่งสอน จงทำตามคำ ครั้นเจ้าฤๅษี