หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/27

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๑๕

คิดว่า เป็นข้า มิได้ถือความ แลพระองค์เอาว่าวได้แล้ว พระองค์ก็หนีมา แลลูกสาวจึงบอกแก่พระยาตองอูผู้บิดา ๆ จึงรู้ จึงให้ไปตามเอาตัวพระองค์คืนมาแลสาวไส้พระองค์ออกใส่พานทองไว้ จึงส่งตัวพระองค์มาจากเมือง แลพระองค์ก็ไม่รู้ว่า เขาเอาไส้ไว้ ด้วยกรรมที่พระองค์เป็นกาแลพระยาตองอูเป็นปลา แลกาลากไส้ออกไว้จะกินก็บมิกิน แต่นั้นมา ลาวมักเป็นผีกินไส้กินพุงคนทั้งหลาย ครั้นพระร่วงเจ้ามาถึงเมืองสัชนาไลย แลมายังพระอัครมเหสีพระสนมทั้งหลาย ถวายบังคมแล้วก็เปลื้องอาภรณ์ออกจากพระองค์ไว้แล้ว แลเจ้าพสุจกุมารก็เข้าไปถวายบังคม จึงมีพระราชโองการตรัสสั่งเจ้าพสุจกุมารว่า กูจะไปอาบน้ำ มิเห็นกูมา เจ้าเป็นพระยาแทนพี่เถิด แลเจ้าพสุจกุมารก็ไม่รู้แลสำคัญว่า ๆ เล่น ครั้นพระองค์ลงไปอาบน้ำที่กลางแก่งเมือง ก็อันตรธานหายไปไม่ปรากฏ ในพุทธศักราช ๑๒๐๐ พระยาร่วงสิ้นทิวงคต จุลศักราช ๑๕๗ ปีชวด สัปตศก

เสนาอำมาตย์ท้าวพระยาทั้งหลายก็ร้องไห้ร่ำไรไปมา ทั้งพระสนมชาวแม่ทั้งหลายเป็นทุกข์นักหนา แลเจ้าพสุจกุมารจึงให้ราชทูตถือข่าวสาส์นขึ้นไปทูลพระยาลือกุมารราชนครเมืองพิไชยเชียงใหม่ผู้เป็นน้องพระองค์ พระยาลือรู้แล้วจึงลงมาราชาภิเษกเจ้าพสุจกุมารให้เป็นพระยาในเมืองสัชนาไลยแล้ว ครั้นพระร่วงเจ้าทิวงคตวันหนึ่งแล้ว ช้างอันเกิดร่วมชาตินั้นก็ตายคนละวัน แลพระยาลือกุมารขึ้นไปเมืองพิไชยเชียงใหม่ดังเก่า

แลมีเสนาคนหนึ่งชื่อ ไตรภพนารถ คิดอ่านราชการณรงค์สงครามรอบคอบนัก จึงทูลแก่พระยาพสุจราชว่า เมืองเรานี้พระเจ้าข้าหาผู้มีบุญมิได้แล้ว แลอันตรายจะบังเกิดมีไปเมื่อภายหน้า ขอพระองค์ให้แต่ง