พระพุทธโฆษาจารย์เจ้าวัดเขารังแรงรู้อาการแล้ว จึงชุมนุมพระสงฆ์ทั้งหลายว่า เราทั้งหลายอย่าให้เขาทั้งหลายรบกัน ไพร่พลทั้งปวงจะตายเป็นอันมาก ครั้นคิดด้วยกันแล้ว พระพุทธโฆษาจารย์เจ้าจึงไปถวายพระพรแก่สมเด็จพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก ๆ ก็ฟังอำนาจพระอรหันต์เจ้า แล้วพระพุทธโฆษาจารย์เจ้าจึงเข้าไปห้ามพระยาพสุจราช ๆ ก็ฟังคำพระอรหันต์เจ้า ด้วยพระยาศรีธรรมไตรปิฎกเป็นคู่กันกับนางประทุมเทวีแต่ชาติก่อน ให้ทานมิร่วมใจกัน จึงมาเกิดไกลกัน จึงให้รบกัน พระยาพสุจราชรู้แจ้งเพราะพระอรหันต์เจ้าแล้ว จึงมายังชาวเจ้าชาวแม่นางเถ้านางแก่ทั้งหลายให้ประดับประดานางประทุมเทวี แล้วพสุจราชไปถวายบังคม แล้วก็เวนพระราชธิดาให้แก่พระยาศรีธรรมไตรปิฎก ๆ ก็ยินดีนักหนา แล้วอนุญาตแก่กัน แล้วพระยาศรีธรรมไตรปิฎกก็ให้ยกทัพถึงเมืองเชียงแสน แล้วท้าวพระยาก็ต่างคนต่างไปบ้านเมืองตน
พระยาศรีธรรมไตรปิฎกก็ได้พระราชกุมารในสำนักนางประทุมเทวี ๒ คน ผู้หนึ่งชื่อ เจ้าไกรสรราช ผู้หนึ่งชื่อ เจ้าชาติสาคร เจ้ากุมารทั้งสองประกอบด้วยอานุภาพ ทั้งรูปทรงก็งาม ทั้งใจก็เป็นกุศล
แต่ชาติก่อน พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกเป็นภิกษุ ได้สร้างพระไตรปิฎกเมื่อศาสนาพระกกุสนธ์เจ้า ครั้นพระองค์เกิดมาตรัสรู้ในไตรปิฎกทั้งสาม พระองค์จึงรู้ในพระทัยว่า พระพุทธเจ้าเสด็จไปบิณฑบาตทางตะวันตกตะวันออก แล้วเสด็จไปอาศัยฉันจันหันใต้ต้นสมอ แลควรจะไปสร้างเมืองไว้ในสถานที่นั้น พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกคิดแล้วจึงมีพระราชโองการ