หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/47

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๓๕

ลงมาแต่สวรรค์ ทำเพศเป็นมนุษย์ขี่ม้าข้ามหนทางมา เห็นพรรณิพกนั้นจึงถามว่า ท่านจะคลานไปไหน พรรณิพกจึงขานว่าข้าจะอุส่าห์คลานไปไหว้ท่านผู้มีบุญ และพระอินทรเจ้าจึงว่าดูกรท่าน เราฝากม้าและเครื่องทั้งนี้ไว้แก่ท่านบัดเดี๋ยวหนึ่งเถิด พรรณิพกจึงว่าท่านไปอย่าช้า และพระอินทรเจ้าจึงส่งม้าและเครื่องทั้งนั้นไว้ให้และ้วจึงสั่งว่าถ้าเรานานมา และของทั้งนี้เป็นของท่านเถิด ครั้นสั่งและ้วพระอินทรเจ้าก็ไปจากที่นั้น พรรณิพกจึงคิดว่าบุรุษผู้นี้เอาม้าและเครื่องมาฝากเราไว้ จะมีอันใดบ้าง จึงและดูเห็นขวดน้ำมันยาทิพย์ จึงเอามาทาที่คดคอกก็เหยียดออกดูตรงเป็นอันดี และจึงทาทั้งตัวก็รงับดับหายโทษสิ้น ทั้งตัวก็งามดังทอง จึงคิดใจใหญ่ว่าชรอยตูนี้เป็นผู้มีบุญเที่ยงแท้ จึงเปลื้องผ้าเก่าที่ตนนุ่งห่มไปนั้นเสีย จึงทรงเครื่องทิพย์และมงกุฏพระขรรค์งามดุจดังเทวดา และพระยาโคตมเทวราชรำพึงว่า ถ้าผู้มีบุญมาในแผ่นดินจะต่อด้วยกัน ถ้ามาในอากาศจะเอาตัวหนีไปอื่น ครั้นพรรณิพกทรงม้าแก้วม้าก็พาเหาะไปในอากาศเวหา ครั้นพระยาโคตมเทวราชและเห็นผู้มีบุญเหาะมาในอากาศ ก็สดุ้งตกใจกลัวจึงพานางอรรคมเหษีและบุตรี ทั้งเสนาอำมาตย์ไพร่พลโยธา พลช้างม้าออกจากพระนครในวันนั้นทั้งแปดหมื่น ไปข้างปาจิณทิศได้ ๑๕ วันและ้วแสวงหาที่จะตั้งเมือง และพระอินทราเจ้าจึงเอาพรรณิพกอันงามนั้นตั้งเป็นพระยา ได้ชื่อว่าพระยาแกรก ยกนางอันเป็นเผ่าพันธุ์ของพระยาโคตมเทวราชให้เป็นนางอรรคมเหษี และพอจุลศักราชถ้วน ๑๐๐๐ พระอินทรเจ้าเป็นประธาน ให้ลบศักราชในเมือง และมีลูกหลานสืบ ๆ กันมา ถอยจากตระกูลกษัตริย์แต่นั้นมา