หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/52

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๔๐

พวกพลก็เข้ามา ครั้นพร้อมเสร็จให้ผูกพลายทองแดงออกเล่นทุกวัน ได้ทีเพลาค่ำประมาณยามเศษยกหนี พวกพลนั้นยกไปก่อนห้าวันหกวัน และ้วทำทีเป็นเที่ยวหากิน เพลารุ่งเช้าชาวพระนครพูดจากันแซ่ไปว่า พระราชกุมารหนีไป พาชาวเมืองไปด้วยเป็นอันมาก ทราบถึงพระนเรศวร ๆ เอากิจการกราบทูลพระราชบิดาว่า พระราชกุมารพาพลชาวเมืองไป จะขออาสาออกไปจับพระราชบิดาห้ามว่าอย่าไปเลยสู้เขาไม่ได้ พระนเรศวรก็มิฟัง ให้เกณฑ์ทัพ พระนเรศวรทรงช้างต้นพลายตุ่นสูง ๖ ศอกยกตามมาแดนไทยทัน ศักราช ๔๓๑ ปี จะเข้าชนพลายทองแดง ๆ เล็กทานมิได้ถอยมา พระนเรศวรได้ทีจับเอาลูกขลุบเงื้อขึ้น จะทิ้งเอาพระราชกุมาร ๆ ร้องว่าเจ้าพี่เล่นเป็นทารกหาควรไม่ พระนเรศวรได้ยินลอายพระไทยก็วางลูกขลุบลงเสีย พอพลายทองแดงได้ต้นพุดทราที่มั่นยันถนัด หันรับช้างพระนเรศวรเปรไป พระราชกุมารบ่ายของ้าวจ้วงฟันเห็นเป็นสี่กร พระนเรศวรตกพระไทยพระภักตร์เผือดไปเกี่ยวช้างพระที่นั่ง พระราชกุมารพาพวกพลมาพระนคร (พา) ครอบครัวมาถวายพระราชบิดา และ้วกราบทูลกิจจานุกิจทุกประการ ให้แต่งการสมโภชพระราชกุมาร ขนานนามพระนารายณ์ แต่นั้นมาเมืองสเทิมกับเมือง ลโว้ ขาดทางพระราชไมตรีกันแต่นั้นมา มอญนเรศวรซึ่งได้มานั้นอยู่ที่เมืองบ้าง อยู่บางขามโพชายบ้าง คุ้มเท่าบัดนี้

 จุลศักราช ๒๔๒ ปีรกาโทศก มหาอำมาตย์ได้ครองราชสมบัติได้ ๑๒ ปีสวรรคต พระนารายน์สร้างวัดปีหนึ่ง ศักราช ๒๔๙ ปี มเมียนพศก พระนเรศวรยกพล ๔๐ แสนมาล้อมกรุง ตั้งค่ายอยู่ตำบลนนตรี ทราบว่าพระนารายน์ได้ครองราชสมบัติ เกรงพระเดชเดชานุภาพ