หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/79

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๖๗

ตนได้เรียนมา และพี่น้องทั้งสองชวนกันขึ้นไปถึงบนปราสาทพระยาแล้ว ฉวยอุ้มเอาพระราชธิดาลงมาจากปรา สาทมาถึงวัดเวลาเที่ยงคืนหาผู้ใดจะรู้มิได้และพี่น้องทั้งสองยินดีนักหนา แต่อุ้มไปอุ้มมาได้สามวันแล้ว เจ้ากูก็เอาทวะดึงษาการมาเป็นกรรมฐานปลงปัญญาญาณว่ารูปผี ครั้นเวลากลางคืนพระเจ้าหงษาย่อมมาดูลูกสาวตนมิเห็นลูกสาวตนในกลางคืนนั้นก็ คิดหลากพระไทย จึงเอาพรรณผักกาดใส่ผมไว้ ครั้นพรรณผักกาดตกลงก็งอกถึงกุฎี และพระยาจึงให้อำมาตย์ไปกุมเอาตัวเจ้ากูทั้งสององค์นั้นมา พระยาจะให้เอาไปฆ่าเสีย เจ้ากูจึงว่ามหาบพิตรอย่าเพ่อฆ่าเรา ๆ จะลองวิชาคุณอันเราได้เรียนมานั้นให้ท่านดูก่อน จึงให้คนตักน้ำใส่ขันอันใหญ่มาแล้ว เจ้ากูองค์หนึ่งเป็นนกยาง องค์หนึ่งเป็นปลาว่ายอยู่ในขันนั้น และนกยางจึงคาบเอาปลาพาบินไป พระยาหงษาเห็นหลาก จึงให้คนตามไปดูมิได้เห็นบาตรและจีวรในกุฎี และเจ้ากูทั้งสองก็เข้าไปถึงเมืองเชียงใหม่แล้ว และพระบิดามารดาก็ยินดีนักหนา และพระยาสุคนธคีรีจะใคร่ได้เจ้าไชยทัตมาเป็นพระยาแทนพระองค์ ๆ จึงให้ประจุออกจากสมณะแล้วแต่ว่ามิพอใจผู้หญิงคนใดคนหนึ่ง และพระเจ้าสุคนธคีรีให้หาโหรมาทายดูจึงรู้ว่าคู่พระองค์เจ้าอยู่ต่างเมือง และเขาก็เล่าฦๅว่าลูกสาวพระยาอู่ทองมีผู้หนึ่งงามดังนางฟ้า เจ้าไชยทัตจะใคร่ได้เป็นอัครมเหษี และเอาเพศเป็นสามเณร กับเจ้าไชยเสนผู้น้องอันเป็นเจ้าพระภิกษุเป็นเพื่อนกันมาถึงเมืองศรีอยุทธยา ราชธานี มาอยู่อาไศรยในวัดใกล้พระราชวัง ฟังกิติศัพท์คนทั้งปลายเล่าฦๅแก่กัน ครั้นรู้ตระหนักแล้วเจ้าก็ลาเพศออกจากสามเณร แล้วซ่อนกำบังกายเข้าไปในพระราชวังเข้ามิได้ จึงเห็นต้นพิกุลต้นหนึ่งอยู่ใกล้