หน้า:พงศาวดารเหนือ - ๒๔๗๔.pdf/83

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ยังไม่ได้พิสูจน์อักษร
๗๑

ให้แก่เจ้าวรเชษฐกุมาร และพระองค์จะใคร่ทรงผนวชในพระสาสนา หวังจะเอานฤพานเป็นเบื้องน่าจึงมีพระโองการตรัสสั่งแก่เสนาอำมาตย์ ให้ส่งข่าวสาสนไปถึงพระยาญาติฝ่ายข้างเหนือข้างใต้ ให้รู้ว่าพระบรมราชาจะทรงผนวชบวชเป็นบวรณพสาครแล้ว ครั้นวันพุฒเดือนหกขึ้นค่ำหนึ่งปีฉลูฉศก เสด็จไปจากพระนครด้วยพระยาวรเชษฐ ทั้งพระสนมชาวแม่ทั้งหลาย และเสนามนตรี แห่ห้อมล้อมไปเป็นบริวาร ไปถึงวัดสมโณโกฏิ มีพระสังฆราชาเป็นอุปัชฌาย์ มหาเทพโมฬีเป็นกรรมวาจา มหาธรรมไตรโลกวัดสุทธาเป็นอนุสาวนะ ชุมนุมพระสงฆ์เจ้า ๑๐๐ พระองค์ นั่งหัตถบาศอุปสมบทเจ้าบรมราชาเป็นภิกษุ และพระสงฆเจ้าทั้งหลายก็จะออกบวชใหม่ โดยประมาณมากกว่า ๑๐๐ สมเด็จพระบรมราชาค่อยเจริญเมตตาภาวนาณะวัดสมโณโกฏิ และพระมหาเทพโมฬีถวายอารามวัดสมโณโกฏิแก่พระองค์เจ้าแล้ว ก็ลาขึ้นมาอยู่ในอารามวัดป่าหลวงนอกเมืองชลอน ตราบเท่าสิ้นชนมายุพระองค์เจ้าในอาราม ที่นั้นและ

 ศักราชถ้วน ๑๐๐๐ พระร่วงเจ้าลบทีหนึ่ง และพระยาธรรมิกราชจะได้ลบ และโหราพฤฒาจารย์มิได้เอาทูลบอกกล่าว ก็ล่วงพ้นมาแล้วและ อันนี้ท่านพระเจ้าโคตมมหาราชแต่เมื่อยังเป็นพรรณิพก ยังมิได้เป็นพระยาแกรก และพระโคตมมหาราชยังอยู่เมืองอินทปัตนคร และพระองค์ตรัสแก่ขุนสิงหฬสาคร ให้เอาสินค้าของหลวงออกไปขาย ขุนสิงหฬสาครรับพระราชโองการแล้วก็ทูลลา จึงนำพานิชพ่อค้าทั้ง ๕๐๐ ลงสำเภาลำหนึ่ง และสิ่ง