หน้า:พงศาวดาร (จาด) - ๒๕๐๒.pdf/38

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ก็ดี ใช่ว่าจะพ้นมือทหารเรานั้นเมื่อไร ฝ่ายในเมืองเชียงใหม่ตีแต่บัง[1] ที่กำแพงทลายนั้นให้ก่อขึ้น ครั้น ๗ วันแล้ว พระเจ้าเชียงใหม่มิได้เอาเครื่องจำเริญพระราชไมตรีออกมา นายทัพนายกองข้าทหารร้องทุกข์ราชว่า ข้าวในกองทัพทนานละสิบสลึงหาที่ซื้อไม่[2] จะขอพระราชทานเร่งปล้น พระเจ้าอยู่หัวบัญชาตามนายทัพนายกอง ทรงพระกรุณาสั่งให้เลิกกองทัพเสียด้านหนึ่ง ให้เร่งปล้นวันจันทร์ เดือน ๔ ขึ้น ๔ ค่ำ เพลา ๓ ทุ่ม ๒ บาท เดือนตก เจ้าพนักงานยิงปืนใหญ่น้อยระดมทั้ง ๓ ด้าน เอากระไดหกพาดปีนกำแพงขึ้นไป พระเจ้าเชียงใหม่ต้านทานมิได้ เทครัวหนีออก เพลา ๑๑ ทุ่ม ทหารเข้าเมืองได้ ได้แต่นักส้างบุตรเจ้าเมืองเชียงใหม่องค์หนึ่งมาถวาย พระเจ้าอยู่หัวตรัสต่อนักส้างว่า พระเจ้าเชียงใหม่บิดาท่านหาสัตยานุสัตย์มิได้ เราคิดว่า จะออกมาหาเราโดยสัตย์ เราจะให้คงราชสมบัติ ตรัสดังนั้นแล้ว ก็ให้นักส้างถวายสัตยานุสัตย์ พระเจ้าอยู่หัวก็ให้แบ่งไพร่พลเมืองไว้พอสมควร เหลือนั้นก็ให้เทครัวอพยพหญิงชายลงมา ให้นักส้างลงมาส่งเสด็จถึงเมืองสวางคบุรี ทรงพระกรุณาให้นักส้างกลับขึ้นไปครองราชสมบัติ ณ เมืองเชียงใหม่ พระเจ้าอยู่หัวเสด็จเข้าเมืองพิษณุโลก นมัสการพระชินศรีพระชินราช เปลื้องเครื่องต้นทำสักการบูชาสมโภช ๗ วัน เสด็จลงมาพระนคร 


  1. ฉบับพันจันทนุมาศว่า ตีแตะบังที่กำแพงหลายนั้นให้ก่อขึ้น
  2.  " " ข้าวในกองทัพทะนานละสิบสลึงหามีที่ซื้อไม่ ฉบับพระราชหัตถเลขาว่า "นายทัพนายกอง…ร้องทุกข์ราษฎร์ว่า…หาที่ซื้อมิได้…"