หน้า:พงศาวดาร - ปรมานุชิตฯ - เล่ม ๑ - ๒๔๘๕.pdf/11

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
5

จะเตรียมการมิทัน จึ่งคิดกลอุบายมา, ขอพระราชทานไห้ปล้นเอาเมืองจงได้. สมเด็ดพระเจ้าหยู่หัวตรัดว่า เปนพระเจ้าแผ่นดินไหย่ เขาไม่รบแล้วเราจะไห้รบนั้นมิควน, ถึงมาทว่าพระเจ้าเชียงไหม่จะมิได้คงหยู่ไนสัจจานุสัจก็ดี, ไช่ว่าจะพ้นมือทหานเรานั้นเมื่อไรมี. หายไนเมืองเชียงไหม่นั้นก็ตีแตะบังที่กำแพงทลายแล้วนั้นไห้ก่อขึ้น ครั้นถ้วนเจ็ดวันแล้ว พระเจ้าเชียงไหม่มิได้แต่งเครื่องจำเรินพระราชไมตรีออกมา, นายทัพนายกองข้าทหานร้องทุขว่า, ข้าวไนกองทัพทนานละสิบสลึงหาที่ซื้อมิได้, จะขอพระราชทานเร่งปล้น. พระเจ้าหยู่หัวบันชาตามนายทัพนายกอง. ซงพระกรุนาสั่งไห้เลิกกองทัพเสียด้านหนึ่ง, ไห้เร่งปล้นวันนะวันจันท เดือนสี่ ขึ้นสี่ค่ำ. เพลาสามทุ่ม สองบาท เดือนตก, เจ้าพนักงานยิงปืนไหย่น้อยระดมทั้งสามด้าน, เอาบันไดหกพาดปีนกำแพงขึ้นไป. พระเจ้าเชียงไหมต้านทานมิได้, ก็พาครัวหนีอพยพหนีออกเพลา 11 ทุ่ม ทหานเข้าเมืองได้, ได้แต่นักส้าง บุตรพระเจ้าเชียงไหม่องค์หนึ่ง มาถวาย. พระเจ้าหยู่หัวตรัดต่อนักส้างว่า, พระเจ้าเชียงไหม่ บิดาท่าน หาสัจจานุสัจมิได้, เราคิดว่า จะออกมาหาเราโดยสัจ เราจะไห้ครองราชสมบัติ. ตรัดดั่งนั้นแล้ว ก็ไห้นักส้างถวายสัจจานุสัจ. พระเจ้าหยู่หัวก็ไห้แบ่งไพร่พลเมืองไว้พอสมควน, เหลือนั้นไห้กวาดครัวอพยพหยิงชายลงมา. ไห้นักล้างลงมาส่งสเด็ดถึงเมืองสว่างคบุรี. ซงพระกรุนาไห้นักส้างกลับขึ้นไปครองราชสมบัตินะเมืองเชียงไหม่ พระเจ้าหยู่หัวสเด็ดยังไนมืองพระพิสนุโลก, นมัสการพระชินราชชินสีห เปลื้องเครื่องต้นถวายซงสักการะบูชาสมโภชเจ็ดวัน, แล้วสเด็ดลงมาพระนคร และลาวซึ่งต้อนลงมานั้นไห้ส่งไปไว้เมืองพัทลุง, เมืองสงขลา, เมืองนครสรีธัมราช, เมืองจันทบุรี, แล้วสเด็ดออกซง