แม่แบบ {{หัวสลับ 2}} ถูกยกเลิกแล้ว กรุณาใช้แม่แบบ {{หัวสลับ}} ทดแทน |
ขบวนเรือแห่พระพุทธเจ้ามีการสมโภชเจ็ดวัน.
ลุศักราช ๙๕๗ ปีวอก สัปตศก, ทรงพระกรุณาตั้งพระราชกำหนดกฎพระไอยการไว้สำหรับแผ่นดิน. แลตั้งส่วยสัดสรรพากรสำหรับขึ้นท้องพระคลัง, กับทั้งพระกัลปนาอุทิศถวายพระสงฆ์ราชาคะณะทุกพระอาราม. สมเด็จพระเจ้าอยูหัวมีพระราชบุตรสองพระองค์, ทรงพระนาม เจ้าฟ้าสุทัศน์ พระองค์หนึ่ง, เจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์ พระองค์หนึ่ง. แลเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์นั้น, ประชวรพระยอดเสียพระเนตรข้างหนึ่ง. จึ่งโปรดให้พระราชบุตรผู้พี่เปนพระมหาอุปราช, พระมหาอุปราชกราบทูลขอพิจารณาคนออก, ดำรัสว่า จะเปนขบถฤๅ. พระมหาอุปราชกลัวพระราชอาญา เสวยยาพิษถึงทิวงคต. แผ่นดินเจ้าฟ้าศรีเสาวภาคย์
ลุศักราช ๙๖๓ ปีฉลู ตรีศก, สมเด็จพระเอกาทศรฐเสด็จสวรรคต. พระชนม์ได้ ๕๒ พรรษา, อยู่ในราชสมบัติเก้าปี. จึ่งเจ้าฟ้าศรีเสาภาคย์ราชบุตรซึ่งเสียพระเนตรข้างหนึ่งได้เสวยราชสมบัติ. นับกระษัตริยสืบราชวงษสมเด็จพระรามาธิบดีสร้างกรุง, ยกเสียแต่ขุนวรวงษาธิราช, เปนพระเจ้าแผ่นดิน ๒๐ พระองค์ด้วยกัน.
แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรม
ลุศักราช ๙๖๔ ปีขาล จัตวาศก, ครั้งนั้น พระพิมลธรรมราชาคณวัดระฆังมีศิษย์โยมมาก, ทั้งจมื่นศรีสรรักษก็ถวาย