หน้า:พรบ วิอ ๑๑๕.pdf/2

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๕๗
เล่ม ๑๓
ราชกิจจานุเบกษา



มาตรา  การจับกุมผู้กระทำผิดล่วงลเมิดพระราชกำหนดกฎหมายซึ่งมีโทษหลวงนั้น ห้ามไม่ให้เกาะกุมจับตัวคนใดคนหนึ่งมาฤๅจะเอาตัวคนใดคนหนึ่งกักขังไว้สำหรับที่จะพิจารณาความนั้นโดยที่ผู้พิพากษาผู้มีน่าที่ตามกฎหมายไม่ได้ออกหมายให้เกาะกุมจับตัวคนนั้นมา เว้นไว้แต่เมื่อจับกุมคนใดคนหนึ่งกำลังทำการผิดล่วงลเมิดพระราชกำหนดกฎหมายซึ่งมีโทษหลวงอยู่ก็ดี ฤๅคนใดคนหนึ่งซึ่งมีเหตุสงไสยว่าทำการล่วงลเมิดพระราชกำหนดกฎหมายซึ่งมีโทษหลวงจะหลบหลีกหนีไปเสียก็ดี จึ่งไม่ต้องออกหมายจับก่อน แลในหมายจับนั้นต้องกล่าวโดยย่อไว้ด้วยว่า คนผู้ต้องจับนั้นเปนผู้ที่ต้องสงไสยว่ากระทำการผิดล่วงลเมิดพระราชกำหนดกฎหมายซึ่งมีโทษหลวงอย่างไร เมื่อใด ณที่ตำบลใด ๆ นั้นด้วย



มาตรา  ถ้าเกาะกุมจับเอาตัวคนใดคนหนึ่งมาได้แล้ว ก็ให้นำตัวมาส่งยังตรางที่กักขังสำหรับแผ่นดิน แล้วให้พนักงานจดชื่อของคนผู้ต้องจับนั้นลงไว้ในสมุดบาญชี แลให้จดหมายบันทึกลงไว้ด้วยว่า คนผู้ต้องจับนั้นต้องหาว่ากระทำการผิดล่วงลเมิดพระราชกำหนดกฎหมายซึ่งมีโทษหลวงอย่างไร เมื่อใด ณที่ตำบลใด กับชื่อของผู้จับ ฤๅชื่อของผู้พิพากษาผู้มีน่าที่ตามกฎหมายซึ่งได้ออกหมายจับนั้น ลงไว้ด้วยจงทุกคราว



มาตรา  บรรดาคนผู้ต้องจับมาทุก ๆ คนนั้น ถ้าการควรไต่สวนได้ภายใน ๔๘ ชั่วโมงนับแต่เวลาจับเอาตัวมาไว้แล้ว ต้องให้เอาตัวมาให้ผู้พิพากษาไต่สวน คือ—

(๑) ให้ผู้พิพากษาผู้ออกหมายจับนั้นเอาตัวคนผู้ต้องจับมาไต่สวน, ฤๅ—

(๒) คนผู้ต้องจับมานั้นต้องจับมาโดยทางอื่นนอกจากที่ได้มีหมายจับ ดังนี้ ก็ให้ผู้พิพากษาคนใดคนหนึ่งผู้มีน่าที่ตามกฎหมายเอาตัวคนผู้ต้องจับนั้นมาไต่สวน ถ้าในเรื่องใดรายใดต้องไต่สวนช้าไปกว่า ๔๘ ชั่วโมงตั้งแต่จับมาไว้แล้ว ก็ให้ผู้พิพากษาผู้ไต่สวนนั้นจดหมายบันทึกเหตุการที่ต้องชักช้าไปมิได้ไต่สวนในกำหนดนั้นลงไว้ในเรื่องนั้นรายนั้นจงทุกคราว