หน้า:พรบ อั้งยี่ ๑๑๖.pdf/4

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
น่า ๓๘๒
เล่ม ๑๔
ราชกิจจานุเบกษา

 ประการที่  เพื่อจะทำการทางใช้อำนาจกดขี่ด้วยกำลังให้คนอื่นกลัวเกรงแล้วข่มขืนให้คนนั้น ๆ ทำการสิ่งใด ๆ ซึ่งกฎหมายไม่ได้บังคับให้ทำ ฤๅข่มขืนคนนั้น ๆ ไม่ให้ทำการสิ่งใดซึ่งกฎหมายอนุญาตให้ทำ

 มาตรา ๑๐ ถ้าพบธง หรือเครื่องหมายอื่น ๆ ฤๅสรรพหนังสือต่าง ๆ ของหมู่ของซ่องใด ๆ อยู่กับผู้ใด ก็จะต้องถือว่า ผู้นั้นเปนพวกหมู่ซ่องนั้น ๆ จนกว่าผู้นั้นจะพิสูตรตัวด้วยพยานให้เห็นจริงว่า ตนไม่ใช่พวกในหมู่ซ่องนั้น ๆ

 มาตรา ๑๑ ห้ามไม่ให้หมู่ซ่องที่ได้จดทเบียนไว้ตามข้อพระราชบัญญัตินี้มีการชุมนุม เว้นแต่หัวหน้าหมู่ซ่องนั้นได้บอกล่วงน่าให้เจ้าพนักงานผู้จดทเบียนทราบก่อนอย่างน้อย ๒๔ ชั่วโมง ในคำแจ้งความนั้น ต้องบอกเวลาแลวันชุมนุม แลจะชุมนุมที่ตำบลใด แลชุมนุมด้วยเหตุอันใด ฤๅจะทำการสิ่งใดในที่ชุมนุมนั้น ๆ เจ้าพนักงานผู้จดทเบียน ฤๅเจ้าพนักงานกองตระเวรคนหนึ่งคนใดที่ได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานผู้จดทเบียน มีอำนาจที่จะเข้าไปในที่ชุมนุมนั้นโดยสดวก การชุมนุมทุกรายซึ่งได้ชุมนุมผิดต่อมาตรานี้ ต้องถือว่า เปนการผิดต่อกฎหมาย แลถ้าผู้ใดขัดขวางห้ามปรามเจ้าพนักงานที่ได้รับอนุญาตไม่ให้เข้าไปในที่ชุมนุม ได้พิจารณาสม ให้ปรับเงินไม่เกินกว่า ๕๐๐ 

บาท ฤๅจำคุกมีกำหนดไม่เกินกว่าปี ๑ ฤๅทั้งปรับแลจำด้วยทั้งสองสถาน

 มาตรา ๑๒ ถ้าคนใดคนหนึ่งเปนผู้จัดการฤๅเปนผู้ช่วยในการของหมู่ของซ่องซึ่งได้ตั้งขึ้นผิดด้วยกฎหมายนั้น พิจารณาเปนสัตย์ ให้จำคุกไม่เกินกว่า ๕ ปี หรือปรับเปนพิไนยไม่เกินกว่า ๒๐๐๐ บาท ฤๅทั้งจำคุกแลปรับเปนพิไนยด้วยทั้งสองสถาน

 มาตรา ๑๓ คนใดคนหนึ่งซึ่งเปนสมาชิกก็ดี ฤๅทำการเหมือนเปนคนอยู่ในพวกของหมู่ของซ่องซึ่งได้ตั้งขึ้นผิดด้วยกฎหมาย ฤๅไปชุมนุมด้วยเหล่าที่ชุมนุมอันผิดกฎหมาย ฤๅเกี่ยวข้องด้วยหมู่แลซ่องที่เข้าชุมนุมกันดังว่ามานี้ ฤๅออกเงินเข้าเรี่ยรายให้หมู่แลซ่องที่เข้าชุมนุมกันดังว่ามานี้ ฤๅช่วยอุดหนุนอย่างอื่น ฤๅชักชวนโดยความขู่เข็ญ ให้คนใดคนหนึ่งมาเข้าในหมู่ในซ่องซึ่งได้ตั้งขึ้นผิดด้วยกฎหมาย พิจารณาเปนสัตย์ ให้จำคุกไว้ไม่เกินกว่า ๓ ปี ฤๅให้ปรับเปนพิไนยไม่เกินกว่า ๑๐๐๐ บาท ฤๅทั้งจำคุกแลปรับเปนพิไนยด้วยทั้งสองสถาน

 มาตรา ๑๔ ถ้าคนใดคนหนึ่งไปชุมนุมในหมู่ในซ่องฤๅในที่ชุมนุมกันอันผิดกฎหมายนั้น มีอาวุธ ฤๅสิ่งอื่นที่ใช้ต่างอาวุธอันเปนเครื่องที่จะทำอันตรายแก่ชีวิตรได้แล้ว ก็ให้ลงโทษจำคุกผู้นั้นให้มากขึ้นถึง ๔ ปีได้ ฤๅให้ปรับผู้นั้นเปนพิไนย