เล่ม ๑๐๑ ตอนที่ ๑๓๑
๒๖ กันยายน ๒๕๒๗
ราชกิจจานุเบกษา
๒.ตัวแทนทางทูตไม่จำต้องให้การในฐานะเป็นพยาน
๓.มาตรการบังคับคดีไม่อาจดำเนินได้ในส่วนที่เกี่ยวกับตัวแทนทางทูตเว้นแต่ในกรณีซึ่งอยู่ภายใต้อนุวรรค (ก) (ข) และ (ค) ของวรรค ๑ ของข้อนี้ และโดยมีเงื่อนไขว่ามาตรการที่เกี่ยวข้องอาจดำเนินไปได้โดยปราศจากการละเมิดต่อความละเมิดมิได้ในตัวบุคคลของตัวแทนทางทูตหรือที่อยู่ของตัวแทนทางทูต
๔.ความคุ้มกันของตัวแทนทางทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้รับไม่ยกเว้นตัวแทนทางทูตจากอำนาจศาลของรัฐผู้ส่ง
๑.ความคุ้มกันจากอำนาจศาลของตัวแทนทางทูตและของบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกันภายใต้ข้อ ๓๗ อาจสละได้โดยรัฐผู้ส่ง
๒.การสละต้องเป็นที่ชัดแจ้งเสมอ
๓.การริเริ่มคดีโดยตัวแทนทางทูตหรือโดยบุคคลที่อุปโภคความคุ้มกันจากอำนาจศาลภายใต้ข้อ ๓๗ จะตัดตัวแทนทางทูตหรือบุคคลนั้นจากการอ้างความคุ้มกันจากอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับการฟ้องแย้งที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการฟ้องคดีนั้น
๔.การสละความคุ้มกันจากอำนาจศาลในส่วนที่เกี่ยวกับคดีแพ่งหรือคดีปกครองจะไม่ถือว่าเป็นการสละความคุ้มกันในส่วนที่เกี่ยวกับการบังคับคดีตามคำพิพากษาซึ่งจำเป็นต้องมีการสละต่างหากอีก