หน้า:พระราชดำรัสฯ แก้ไขการปกครองแผ่นดิน - ๒๔๗๐.pdf/54

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๔๓

หมื่นชั่ง จนไม่สามารถจะปล่อยให้เปนการเปนไปเช่นนั้นได้ จึงได้จัดตั้งหอรัษฎากรพิพัฒน์เปนออฟฟิศเจ้าพนักงานคลัง ยกคลังสินค้ามารวมว่าการพร้อมกับคลังมหาสมบัติ ยกกรมคลังมหาสมบัติขึ้นเปนเสนาบดีว่าการคลัง ภายหลังรวมอากรคลังในซ้ายในขวาเข้าไว้ในกรมนี้ด้วยแต่กรมอื่นๆก็ยังรวบรวมเข้าไม่ได้ด้วยการขัดข้องต่างๆ เพราะฉนั้นเสนาบดีว่าการคลังที่เทียบขี้นไว้ ก็เปนแต่สักว่าส่วนหนึ่งไม่มีอำนาจเต็มตามตำแหน่งเสนาบดีว่าการคลังซึ่งควรจะมีการรับจ่ายเงินแผ่นดินซึ่งเปนการสำคัญก็ยังไม่เปนรูปร่างอันใดขึ้นได้ คงเปนความลำบากอยู่หลายอย่างพ้นที่จะพรรณา

ในกรมภูษามาลานั้น จางวางเปนขุนนางผู้ใหญ่ตำแหน่งศักดินาห้าพัน เพราะแต่ก่อนได้บังคับบัญชากรมที่ใกล้เคียงกันหรือที่เกี่ยวข้องด้วยเครื่องต้นอันพระเจ้าแผ่นดินจะทรงทั่วไป เช่นกรมแสงหอกดาบกรมแสงปืนต้นตลอดจนพระคลังทอง ภายหลังมากในกรมแสงมีเจ้านายไปเปนจางวางผู้บังคับบัญชาก็มีอำนาจครอบงำว่าตลอดไป ส่วนกรมพระคลังทองนั้นมีเจ้านายไปกำกับการโรงทองก็บังคับการปกแผ่ไปถึงคลังทองด้วยกรมภูษามาลาจึงได้คงอยู่แต่ชั่วกรมภูษามาลากับกรมขึ้นซึ่งเปนกรมเล็กๆมีช่างสนะเปนต้น จนถึงที่ตำแหน่งจางวางกรมภูษามาลาไม่เปนตำแหน่งที่จะมี ผู้ใดก็ไม่มีใจยินดีอยากจะเปน กรมภูษามาลาจึงได้เปนกรมโตร้างๆสืบมา ไม่เปนการสำคัญที่จะจัดการอันใดเปลี่ยนแปลงได้นัก ว่าไว้เพราะเหตุแต่ก่อนเปนกรมใหญ่เท่านั้น