หน้า:พระราชดำรัสฯ แก้ไขการปกครองแผ่นดิน - ๒๔๗๐.pdf/66

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้ตรวจสอบแล้ว
๕๕

ทหารปืนใหญ่นั้น ก็อยู่ในบังคับบัญชาของกระลาโหมตามเดิม แต่มาอยู่ประจําโรงฟากข้างนี้ ภายหลังเก็บคนในกรมแสงขึ้นเปนทหารปืนแคตลิงคันอีกหมู่หนึ่ง ทหารพวกนี้ไม่ได้ขึ้นกรมกระลาโหมแต่เดิมมา แลมีวิธีแบบอย่างแปลกออกไปอีกพวกหนึ่งเหมือนล้อมวัง ทหารกรมช้างแลทหารฝีพาย ส่วนเรือรบแลเรือกลไฟพระที่นั่งนั้นอยู่ในบังคับเจ้าพระยาสุรวงษ์ขึ้นกรมพระกระลาโหมสิทธิ์ขาด ใช้คนอาษาจามแลมอญจ่ายลงประจําลําเรือ แลมีแยกไปอยู่กับผู้อื่นบ้างบางลํา แต่ก็สาปสูญโดยเร็ว ภายหลังมีเรือเวสาตรีจึงได้ชักทหารปืนแคตลังคันลงไปเปนทหารเรือ เมื่อกรมเรือไฟเก่าร่วงโรยซุดโซมไปมาก ก็เกิดเรือเล็กน้อยแยกมาอยู่ในกรมทหารกรมแสงมากขึ้นจนการเรือเปนสองแผนก การที่จะรักษาแลใช้การต่าง ๆ ก็แปลกกัน

ด้วยเหตุที่ทหารบกทหารเรือมีวิธีฝึกหัดแลใช้จ่ายแปลก ๆ กันก็เปนที่ให้เปลืองเงินแลไม่เปนการเรียบร้อยตลอดไปได้ จึงใดตั้งกรมยุทธนาธิการขึ้นในเร็ว ๆ นี้ เพื่อจะได้รวบรวมบังคับบัญชาการทั้งทหารบกทหารเรือให้เปนแบบเดียวกัน ซึ่งเปนทางที่จะได้จัดการให้เรียบร้อยไปภายหน้า

ส่วนซึ่งแบ่งปันฝ่ายทหารแต่ทําการฝ่ายพลเรือนนั้น คือกรมช่างสิบหมู่ ซึ่งแบ่งไว้ในฝ่ายทหารนั้น ก็คงเปนด้วยช่างเกิดขึ้นในหมู่ทหารเหมือนทหารอินเยอเนีย แต่ภายหลังมาเมื่อทําการต่าง ๆ มากขึ้นจนถึงเปนการลเอียด เช่นเขียนปั้นแกะสลักก็เลยติดอยู่ในฝ่ายทหาร แต่ไม่ใด้เกี่ยวข้องอันใดในราชการทหาร ไม่ได้ขึ้นกรมกระลาโหม