หน้า:พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรีสังเขป.pdf/23

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

๑๐. เหนเหลือกำลังที่จตั้งมั่นรักษาเมืองไว้มิได้ ด้วยขัดสะเบียงอาหารนัก จึ่งบอกลงมากราบทูลพระกรุณา ณ ค่ายหลวงแต่ยังเสดจ์อยู่ ณ ปากน้ำพิงว่า ในเมืองสิ้นสะเบียง จขอพระราชทารล่าทัพออกจากเมือง ก็โปรดอนุญาต เจ้าพระยาจักกรี เจ้าพระยาสุรสีหพิศณวาธิราช จึ่งสั่งให้นายทัพนายกองซึ่งออกไปตั้งค่ายประชิรับพม่าอยู่นอกเมืองทั้งสองฟากนั้นเลิกถอยเข้าในเมืองสิ้น พม่าเข้าตั้งอยู่ในค่ายไทยประชิใกล้เมือง ให้ทำบันใดจพาดกำแพงเตรียมการจปีนปล้นเอาเมือง พลทหารซึ่งรักษาน่าที่เชิงเทิญ ฯ ๑๐ ฯ

"เรื่องนี้อยู่ห้องข้างขวามือ"

๑๑. รดมยิงปืนใหญ่น้อยออกไปดั่งห่าฝน พม่าจเข้าปีนปล้นเอาเมืองมิได้ ต่างยิงปืนโต้ตอบกันอยู่ทั้งสองฝ่าย ครั้นถึง ณ วันสุกร เดือนสี่ แรมสิบเบดค่ำ เจ้าพระยาทั้งสองจึ่งให้เจ้าหน้าที่รดมยิงปืนใหญ่น้อยหนาขึ้นกว่าทุกวัน เสียงปืนลั่นสนั่นไปมิได้ขาดตั้งแต่เช้าจนค่ำ แล้วให้เอาปี่พาทย์ขึ้นตีบนเชิงเทิญรอบเมือง ครั้นเวลาประมาณยามเสศ เจ้าพระยาทั้งสองก็จัดทหารเปนสามกอง กองน่ากองหนึ่ง กองกลางให้คุมครอบครัวกองหนึ่ง กองหลังรั้งท้ายกองหนึ่ง แล้วยกทัพแลครอบครัวทั้งปวง ฯ ๑๑ ฯ

"เรื่องนี้อยู่ห้องข้างขวามือ"

๑๒. เปิดประตูเมืองข้างด้านฟากตวันออก ให้พลทหารกองน่ารบฝ่าออกไปเข้าหักค่ายพม่าซึ่งตั้งล้อม พม่าในค่ายต่อรบยิงปืนใหญ่น้อยออกมา พลทหารไทยก็หนุนเนื่องกันเข้าไปแหกค่ายพม่าเข้าไปได้ ๆ รบกันถึงอาวุธสั้น ฟันแทงกันเปนตลุมบอน พม่าแตกเปิดทางให้ เจ้าพระยาทั้งสองก็รีบเดินทัพไปทางบ้านลมุง ดอนชมพู แลครอบครัวทั้งปวงนั้นก็แตกกระจัดพรัดพราย ตามกองทัพไปได้บ้าง พม่ากวาดไปได้บ้าง ที่หนีลงมาหาทัพหลวง ณ บางเข้าตอกได้บ้าง ฯ ๑๒ ฯ

"เรื่องนี้อยู่ห้องข้างขวามือ"