หน้า:พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรีสังเขป.pdf/25

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

๑๖. ครั้นลุศักราช ๑๑๔๒ ปีวอก โทศก ฝ่ายข้างกัมพุชประเทศนั้น แผ่นดินเปนจลาจล สมเดจ์พระเจ้ามหากระษัตริยศึกกับเจ้าพระยาสุรสีห์พิศณวาทิราชยกกองทัพรีบออกไปถึงกรุงกัมพุชประเทศเพื่อจปราบปรามแผ่นดินเมืองเขมรให้เรียบราบ ฝ่ายการแผ่นดินกรุงธนบุรีนั้นก็ผันแปรไปต่าง ๆ เพราะพระเจ้าแผ่นดินผเอิญบันดานเสียสติไปประพฤติวิปริตต่าง ๆ เปนเหตุให้ราษฎรทิ้งเยาเรือนลมภูมลำเนาหนีเข้าป่าไปเปนหลายตำบล ฯ ๑๖ ฯ

๑๗. แผ่นดินกรุงธนบุรีได้ความเดือดร้อนทั่วทั้งเมือง พระเจ้าแผ่นดินเสียสติอารมณไปนั้ นก็ชรอยจเปนวิบัติเหตุ เพราะที่มิได้ควรเปนเจ้าของผู้ได้ครอบครองประฏิบัติบูชาพระพุทธมหารัตนปฏิมากรพระองค์นี้ บารมีเจ้าตากสินทรงกำลังศิริของพระพุทธรัตนปฏิมากรมิได้ จึ่งเผอิญให้คลั่งไคล้เสียสติสัญญาผิดวิปลาศไปดั่งนี้ เมื่อแผ่นดินเปนทรยุค จนถึงขุนนางหัวเมืองยกไพร่พลเข้าล้อมกรุงธนบุรีไว้ แล้วจับพระเจ้าแผ่นดินเสียให้ออกนอกอำนาถในจุลศักราช ๑๑๔๓ ปีฉลู ตรีศก ปลายปี จึ่งบอกหนังสือออกไปเชิญเสดจ์สมเดจ์พระเจ้ามหากระษัตริยศึก ฯ ๑๗ ฯ

๑๘. กลับเจ้าเมืองธนบุรี เชิญเสดจ์ให้ทรงชำระเสี้ยนศัตรูแผ่นดินราบคาบเปนปรกติแล้ว พระเจ้ากรุงธนบุรีอยู่ในราชสมบัติได้ ๑๕ ปี เมื่อถึงแก่พีราไล ชนมายุได้ ๔๘ ปี จึ่งมุขมนตรีปฤกษาพร้อมกันอัญเชิญสมเดจ์พระเจ้ามหากระษัตริย์ศึกขึ้นเสวยศิริราชสมบัติ ชีพ่อพราหมณ์ตั้งพระราชพิธีปราบดาพิเศกเสรจ์แล้ว พระบาทสมเดจ์พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชดำริหว่า พระพุทธรัตนปฏิมากรเปนแก้วอย่างดีวิเสศ ไม่สมควรที่จประดิษฐานอยู่ที่เมืองธนบุรีซึ่งเปนเมืองน้อย ฯ ๑๘ ฯ

"เรื่องนี้อยู่ข้างบน"