หน้า:พระราชพงษาวดารฯ ฉบับหลวงประเสริฐฯ - ๒๔๕๐.pdf/12

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

สมเด็จพระรามาธิบดีเจ้าเสด็จพระที่นั่งหอพระ ครั้นค่ำลงวัน(นั้น) สมเด็จพระรามาธิบดีเจ้านฤพาน จึงสมเด็จพระอาทิตยเจ้าเสวยราชสมบัติพระนครศรีอยุทธยา ทรงพระนาม สมเด็จบรมราชาหน่อพุทธางกูร.

ศักราช ๘๙๕ มะเสงศก สมเด็จพระบรมราชาหน่อพุทธางกูรเจ้านฤพาน จึงสมเด็จพระราชกุมารได้เสวยราชสมบัติ.

ครั้นเถิงศักราช ๘๙๖ มะเมียศก พระราชกุมารท่านนั้นเปนเหตุ จึงได้ราชสมบัติแก่พระไชยราชาธิราชเจ้า.

ศักราช ๙๐๐ จอศก แรกให้พูนดินณวัดชีเชียง ในเดือนหกนั้น แรกสถาปนาพระพุทธเจ้าแลพระเจดีย์ เถิงเดือน ๑๑ เสด็จไปเชียงไกรเชียงกราน เถิงเดือน ๔ ขึ้น ๙ ค่ำ เพลาค่ำประมาณยามหนึ่ง เกิดลมพยุพัดหนักหนา แลฅอเรืออ้อมแก้วแสนเมืองมานั้นหัก แลเรือไกรแก้วนั้นทลาย อนึ่ง เมื่อเสด็จมาแต่เมืองกำแพงเพ็ชร์นั้นว่า พระญานารายน์คิดเปนขบถ แลให้กุมเอาพระญานารายน์นั้นฆ่าเสียในเมืองกำแพงเพ็ชร์.

ศักราช ๙๐๗ มะเสงศก วัน ค่ำ สมเด็จพระไชยราชาธิราชเจ้าเสด็จไปเชียงใหม่ ให้พระญาพิศณุโลกเปนทัพหน้า แลยกพลออกตั้งทัพไชยตำบลบางบาน ณวัน ๑๔ ฯ  ค่ำ จึงยกทัพหลวงจากที่ทัพไชยไปเมืองกำแพงเพ็ชร์ เถิงณวัน ค่ำ เสด็จออกตั้งทัพไชยณเมืองกำแพงเพ็ชร์ ณวัน ๑๔ ค่ำ ยกทัพไปตั้งเชียงทอง แล้วยกไปตั้งณเมืองเชียงใหม่ เถิงณวัน ค่ำ ทัพหลวงเสด็จกลับคืนจากเมืองเชียงใหม่ เถิงวัน ๑๕ ฯ  ค่ำ ทัพหลวงเถิงเมืองกำแพงเพ็ชร์ แล้วจึงเสด็จมายังพระนครศรีอยุทธยา ฝ่ายพระนครศรีอยุทธยานั้น ในวัน ค่ำ เกิดเพลิงไหม้เถิง ๓ วัน