ในค่าย แลข้าเศิกพ่ายหนีจากค่ายข้าเศิกเสียสิ้น แลพระเจ้าหงษาก็เลิกทัพคืนไป แลพระญาละแวกมาตั้งณบางซาย ครั้งนั้น เสด็จออกไปชุมพลทั้งปวงณบางกระดาน เถิงวัน ๕ ๑ฯ ๓ ค่ำ เพลาอุษาโยค เสด็จยุหบาตราจากบางกระดานไปตั้งทัพไชยณซายเคือง แล้วเสด็จไปละแวก ครั้งนั้น ได้ช้างม้าผู้คนมาก.
ศักราช ๙๕๐ ชวดศก ณวัน ๒ ๘ฯ ๑๒ ค่ำ แผ่นดินไหว.
ศักราช ๙๕๑ ฉลูศก เข้าแพงเปนเกียนละสิบตำลึง ปิดตราพระญานารายน์กำชับ ณวัน ๖ ๗ฯ ๒ ค่ำ แผ่นดินไหว.
ศักราช ๙๕๒ ขาลศก วัน ๑ ๑๓ฯ ๘ ค่ำ สมเด็จพระพุทธเจ้าหลวงพระพฤฒาราชนฤพาน วัน ๓ ๒ฯ ๑๒ ค่ำ มหาอุปราชายกทัพมาโดยทางกาญจนบูรี ครั้งนั้น ได้ตัวพระญาพสิมตำบลตะเข้สามพัน.
ศักราช ๙๕๔ มะโรงศก วัน ๖ ๒ฯ ๑๒ ค่ำ อุปราชายกมาแต่เมืองหงษา ณวัน ๗ ๑ฯ ๑ ค่ำ เพดาลช้างต้นพระญาไชยาณุภาพตกออกมาใหญ่ประมาณ ๕ องคุลี ครั้นเถิงเดือนยี่ มหาอุปราชายกมาเถิงแดนเมืองสุพรรณบุรี แต่ตั้งทัพตำบลพังตรุ วัน ๑ ๙ฯ ๒ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๔ นาฬิกา ๒ บาท เสด็จพยุหบาตราโดยทางชลมารค ฟันไม้ข่มนามตำบลหล่มพลี ตั้งทัพไชยตำบลม่วงหวาน แลณวัน ๔ ๑๒ ฯ ๒ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๒ นาฬิกา ๙ บาท เสด็จพยุหบาตราโดยทางสถลมารค อนึ่ง เมื่อจะใกล้รุ่งขึ้นวัน ๑๒ ค่ำนั้น เห็นพระสารีริกธาตุปาฏิหารไปโดยทางซึ่งจะเสด็จนั้น เถิงวัน ๒ ๒ฯ ๒ ค่ำ เพลารุ่งแล้ว ๕ นาฬิกา ๓ บาท เสด็จทรงช้างต้นพระญาไชยานุภาพเสด็จออกรบมหาอุปราชาตำบลหนองสาหร่าย ครั้งนั้น มิได้ตามฤกษ์ แลฝ่าย(ฝ่า)ฤกษ์