หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).pdf/210

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๕๓

สมิงนันทมางเปนกลางช้าง เจ้าเมืองมล่วนเปนควาญ พร้อมด้วยแวงจัตุลังคบาท แลน่าช้างพระมหาอุปราชานั้นทวนทองสี่ร้อย ถัดออกมานั้นวางปืนจ่ารงค์มณฑกนกสับกระแบงแก้วดาบโล่ห์ดาบดั้งสิ่งละห้าร้อย แลมางจาชโรพี่เลี้ยงพระมหาอุปราชานั้นเปนกองนำขี่ช้างพลายพัชเนียงสูงหกศอกคืบสองนิ้วติดน้ำมันน่าหลัง สมิงปราบศึกเปนกลางช้าง สมิงมือเหล็กเปนควาญ พระมหาอุปราชาให้แต่งช้างชนะงาผูกคชาธารมีเสวตรฉัตรทั้งสิบหกช้างพรางไว้ แลจัดสมิงรามัญที่เข้มแขงขี่ประจำครบอยู่น่าช้างมางจาชโรพระพี่เลี้ยง แลมีช้างกันแทรกแซงเปนขนัด แล้ววางปืนจ่ารงค์มณฑกนกสับหามแล่นแลพลดาบโล่ห์ดาบดั้งดาบสองมือสิ่งละพันเปนชั้น ๆ ออกไป แล้วช้างท้าวพระยารามัญเกียกกายกองน่าแลพลเดินเท้ายี่สิบหมื่น พลม้าสามพันแซงสองฟากทุ่ง ทัพหลังนั้นพระเจ้าเชียงใหม่ขี่ช้างพลายชมพูทัตสูงหกศอกคืบนิ้วหนึ่งติดน้ำมันน่าหลัง พระยาเชียงแก้วหลานเปนกลางช้าง แสนหาญใจศึกเปนควาญ กอบไปด้วยช้างดั้งกันแทรกแซงแลพลเดินเท้าสิบหมื่น พระมหาอุปราชาจัดทัพเปนสัตตเสนาเจ็ดแถว ๆ ละเจ็ดกองเปนสี่สิบเก้ากองพร้อมพลาพลทวยหาญ ให้ลั่นฆ้องใหญ่ฆ้องกะแตตีรับตามหมวดกองยกจากค่ายพังตรุครั้งนั้นสนั่นนฤนาทด้วยศัพทสำเนียงเสียงช้างม้าพลาพลเดินสท้านสเทือนดุจแผ่นพสุธาจะถล่มลง

 ฝ่ายสมเด็จพระนเรศวรเปนเจ้า ขณะเมื่อเสด็จประทับอยู่ณฉายาไม้ประดู่ เร่งให้ตั้งค่ายมั่น ทอดพระเนตรเห็นม้ารามัญตามชายทุ่งควบกลับไป ก็ตรัศแก่มุขมนตรีว่า พลม้าซึ่งกลับไปนั้นเห็นทีพระมหาอุปราชาให้มาคอยเอาเหตุไปแจ้ง ดีร้ายเพลาพรุ่งนี้จะได้ยุทธใหญ่