หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).pdf/301

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๔๔

เชียงใหม่คืนหนึ่ง ครั้นพระเจ้าเชียงใหม่นำท้าวพระยามาถวายบังคมเสร็จ สมเด็จพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็ยกทัพหลวงเสด็จจากเชียงใหม่ลงมา แลทรงพระกรุณาเอาพระทุลองลูกพระเจ้าเชียงใหม่ลงมาโดยเสด็จ แลพระราชทานให้นามกรชื่อ พระศรีสุมหาธรรมราชา พระบาทสมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็เสด็จมาโดยทางศุโขไทยมายังท่าเรือในเมืองกำแพงเพ็ชร.

 ในขณะนั้น เมืองไทรแต่งทูตานุทูตให้ถือหนังสือแลเครื่องราชบรรณาการเข้ามาถวาย จึงข้าหลวงก็นำทูตานุทูตเมืองไทรนั้นขึ้นไปถวายบังคมแลถวายเครื่องราชบรรณาการถึงทัพหลวงในเมืองกำแพงเพ็ชร แต่ทัพหลวงตั้งอยู่ในเมืองกำแพงเพ็ชรนั้นสิบห้าวัน จึงมีพระราชกำหนดลงมาแก่ท้าวพระยาผู้อยู่รั้งพระนครให้แต่งพระตำหนักตำบลปากโมก ครั้นเสร็จก็เสด็จโดยชลมารคล่องมายังพระตำหนักในปากโมกนั้น พระบาทสมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชโองการตรัศสั่งแก่เจ้าพระยาธรมาธิบดีให้ตกแต่งการประดับประดาพระราชวังหลวงแลตั้งราชวัตรฉัตรธงทั้งสองตราบข้างชลมารคแต่พระตำหนักปากโมกเท่าถึงพระราชวังหลวง แลให้ท้าวพระยาทั้งหลายตรวจจัดเรือแห่แหนทั้งปวงสรรพเสร็จ ถึงณวัน ๑๐ ฯ  ๑๒ ค่ำ พระบาทสมเด็จเอกาทศรฐอิศวรบรมนารถบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัวก็มีพระราชโองการตรัศให้พระราชครูทั้ง ๔ แต่งการพระราชพิธีสงครามาภิเศก แล้วก็ให้เอาเรือพระที่นั่งไชยสุพรรณหงษ์พยุหบาตราอันประดับด้วยสรรพาลังการอันมเหาฬารมาบรรทับขนานแลเทียบเรือแห่น่าหลังทั้งปวงเสร็จ ถึงเพลารุ่งแล้วนาฬิกาหนึ่ง ได้ศุภโยคมังคโลดมเพลาฤกษ์