หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).pdf/317

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้ตรวจสอบแล้ว
๒๖๐

เปนอันมาก ครั้งนั้น ยังมิได้มีทางสถลมารค พรานบุญเปนมัคคุเทศ ก็นำลัดตัดดงไปถึงเชิงเขา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัศทอดพระเนตรเห็นแท้เปนรอยพระบรมพุทธบาทมีลายลักษณกงจักรประกอบด้วยอัฏฐุตรสตมหามงคลร้อยแปดประการสมด้วยพระบาฬีแล้ว ต้องกับเมืองลังกาบอกเข้ามาว่า กรุงศรีอยุทธยามีรอยพระพุทธบาทอยู่เหนือยอดเขาสุวรรณบรรพต ก็ทรงพระโสมนัศปรีดาปราโมทย์ ถวายทัศนัขเหนือพระอุตมางคศิโรตม์ด้วยเบญจางคประดิษฐเปนหลายครา กระทำสักการบูชาด้วยธูปเทียนคันธรศจะนับมิได้ ทั้งท้าวพระยาเสนาบดีกระวีราชนักปราชบัณฑิตยชาติทั้งหลาย ก็ถวายวันทนประณามน้อมเกล้าด้วยเบญจางคประดิษฐ ต่างคนมีจิตรโสมนัศปราโมทย์ยิ่งนัก กระทำสักการบูชา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทิศถวายวนาสณฑ์เปนบริเวณออกไปโยชน์หนึ่งโดยรอบ แล้วทรงพระกรุณาตรัศสั่งให้ช่างจัดการสถาปนาเปนมรฎปสรวมพระบรมพุทธบาท แลสร้างพระอุโบสถพระวิหารการเปรียญตึกกว้านกุฎีสงฆ์เปนอเนกนุประการ แล้วให้ฝรั่งส่องกล้องตัดทางสถลมารคกว้างสิบวาตรงตระลอดถึงท่าเรือ ให้แผ้วถางทุบปราบให้รื่นราบเปนถนนหลวงเสร็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จกลับถึงท่าเรือ ทรงพระกรุณาสั่งให้ตั้งพระราชนิเวศตำหนักฟากตวันออก ให้ชื่อ พระตำหนักท่าเจ้าสนุก ขณะนั้น ฝีพายเอาดอกเลาปักปัถวีเรือไชย ทอดพระเนตรเห็น ตรัศว่า งามดีอยู่ ครั้นเสด็จกลับถึงกรุง สั่งให้แปลงปัถวีเรือไชยเปนเรือกิ่ง ทรงพระกรุณาเร่งรัดให้ช่างสร้างมรฎปพระพุทธบาทแลอาวาศบริเวณทั้งปวง สี่ปีจึงสำเร็จ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จขึ้นไปทำการฉลอง มีงานมหรศพสมโภชเจ็ดวัน แล้ว