หน้า:พงศาวดาร (หัตถเลขา) - ๒๔๕๕ (๑).djvu/82

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๑๙
แผ่นดินขุนวรวงษาธิราช

 นางพระยาจึงมีพระเสาวนีตรัศสั่งปลัดวังให้เอาราชยานแลเครื่องสูงแตรสังข์กับขัติยวงษ์ออกไปรับขุนวรวงษาธิราชเข้ามาในพระราชนิเวศน์มณเฑียรสถาน แล้วตั้งพระราชพิธีราชาภิเศกยกขุนวรวงษาธิราชขึ้นเปนเจ้าพิภพกรุงเทพทวาราวดีศรีอยุทธยา จึงเอานายจันทร์ผู้น้องขุนวรวงษาธิราชบ้านอยู่มหาโลกเปนมหาอุปราช แล้วขุนวรวงษาธิราชผู้เปนเจ้าแผ่นดินปฤกษากับนางพระยาว่า บัดนี้ ข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยรักเราบ้างชังเราบ้าง หัวเมืองเหนือทั้งปวงก็ยังกระด้างอยู่ เราจำจะให้หาลงมาผลัดเปลี่ยนเสียใหม่ จึงจะจงรักภักดีต่อเรา นางพระยาก็เห็นด้วย ครั้นรุ่งขึ้น เสด็จออกขุนนาง สั่งสมุหนายกให้มีตราขึ้นไปหาเมืองเหนือเจ็ดเมืองลงมา.

 ครั้นศักราช ๘๙๑ ปีฉลู เอกศก วัน ค่ำ ขุนวรวงษาธิราชเจ้าแผ่นดินคิดกันกับแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ให้เอาพระแก้วฟ้าไปประหารชีวิตรเสียณวัดโคกพระยา แต่พระศรีศิลป์น้องชายพระชนม์ได้เจ็ดพรรษานั้นเลี้ยงไว้ สมเด็จพระแก้วฟ้าอยู่ในราชสมบัติปีหนึ่งกับสองเดือน.

 ฝ่ายขุนพิเรนทรเทพเชื้อพระวงษ์ กับขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศบ้านลานตากฟ้า สี่คนไว้ใจกันเข้าไปในที่ลับแล้วปฤกษากันว่า เมื่อแผ่นดินเปนทุรยศดังนี้ เราจะละไว้ดูไม่ควร จำจะกุมเอาตัวขุนวรวงษาธิราชประหารชีวิตรเสีย ขุนอินทรเทพ หมื่นราชเสน่หา หลวงศรียศ จึงว่า ถ้าเราทำได้สำเร็จแล้ว จะได้ผู้ใดเล่าที่จะปกป้องครองประชาราษฎรสืบไป ขุนพิเรนทรเทพจึงว่า เห็นแต่พระเทียรราชา