หน้า:พระราชลัญจกร - เสฐียรโกเกศศ - ๒๔๙๓.pdf/46

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๗

ภักษาหาร ตามที่ว่าพิสดารเช่นนั้นก็เพราะนกชะนิดนั้นในเมืองเราไม่มี และที่ว่ากินลมก็เพราะในเมฆไม่มีอะไรนอกจากลม จึงให้กินลมเป็นอาหาร แต่เมื่อปรกติของมันอยู่ในเมฆแล้ว ก็ไฉนเล่ามนุษย์จึงได้ขนมันมาปักหมวก เชื่อว่า เพราะเหตุที่น่าสงสัยเช่นนั้นเอง พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงตรัสสั่งไปต่างประเทศที่ส่งขนนกชะนิดนั้นเข้ามาให้ส่งตัวนกมาถวาย จึงได้ตัวจริง เป็นนกยัดไส้มีขนติดบริบูรณ์เข้ามา ก็เป็นนกที่เรียกตามภาษาอังกฤษว่า Paradise Bird ซึ่งที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษเช่นนี้นึกว่าแปลมาจากภาษาแขก ความก็ว่าเป็นนกฟ้า เราคงได้ฟังแขกเขาว่า จึงละเมอตามไป เมื่อได้นกยัดไส้เข้ามาแล้ว จึงทรงจัดเอาขึ้นเกาะคอน มีด้าม ให้เด็กถือนำพระยานุมาศในงานสมเด็จเจ้าฟ้าโสกันต์ ตามที่ได้พะยานมาว่า เป็นนกอยู่ในแผ่นดิน ไม่ใช่นกอยู่ในฟ้าเช่นนั้น ใครจะเชื่อกันหรือไม่ก็หาทราบไม่ แม้ราชสีห์เมื่อได้ตัวจริงมาบอกใครว่า นี่แหละราชสีห์ ก็ไม่มีใครเชื่อ ด้วยไม่เหมือนกับที่เราปั้นเขียนกัน ตามที่เราปั้นเขียนกันนั้นขาดสิ่งสำคัญที่ไม่มีสร้อยคออันจะพึงสมชื่อว่า "ไกรสร" หรือ "ไกรสรสีห์ ไกรสรราชสีห์"

เรื่องตรานกวายุภักษ์กระทรวงการคลังมีต้นเหตุดังเล่ามานี้ ต่อมา เมื่อสมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ได้ทอดพระเนตรลายตราเก่าปักษาวายุภักษ์ของพระยาราชภักดีฯ แล้ว ตรัสว่า "เห็นรูปนกวายุภักษ์ในตราของพระยาราชภักดีฯ ซึ่งคัดมาไว้ ก็นึกเสียใจว่า ถ้าทำเป็นรูปอย่างเก่า แต่ทำขนเป็นอย่างใหม่ ก็จะดีกว่านั้น ตามที่ทำไว้เป็นธรรมดามากเกินไป"