หน้า:รายงานการประชุม สผ (๒๔๗๕-๑๑-๒๓).pdf/5

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๒๕๕

ประธานสภาฯ อนุมัติ

พระยาวิชัยราชสุมนตร์กล่าวว่า ในการที่จะออกพระราชบัญญัตินี้ เห็นว่า จะได้ผลเหมือนกัน แต่ต้องคิดว่า เมืองไทยได้กระทำมาช้านานแล้วในเรื่องดอกเบี้ย ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นทั้งผลดีและผลร้าย ผลดี คือ การห้ามมิให้เรียกดอกเบี้ยสูงซึ่งเป็นการขูดเลือดเนื้อกัน ส่วนผลร้าย ก็คือ บางทีผู้มีเงินต้องการที่จะรับดอกเบี้ย และคาดเอาว่า ลูกหนี้คงจะชำระหนี้ได้ ครั้นให้กู้ไป ก็โดยหวังดอกเบี้ยสูง ซึ่งนับว่า เป็นการอุปการะ แต่ทีนี้ ชาวนาเป็นผู้ไม่มีเงินทำนา ไปขอร้องกู้โดยมือเปล่าและไม่มีหลักทรัพย์อะไร เพราะนาก็เช่าเขาทำ ผู้มีเงินอาจไม่ให้กู้ เมื่อไม่ให้กู้ ก็ไม่สามารถที่จะไปร้องขอกู้ที่ไหน เว้นไว้แต่จะมีแบงก์ของรัฐบาล และอีกประการหนึ่ง อัตราดอกเบี้ยชั่งละ ๑ บาทต่อเดือนเป็นอัตราที่ต่ำ ถ้าเป็นจำนวนเงินกู้ ๔๐ บาท เดือนหนึ่งก็ได้เพียง ๕๐ สตางค์ ซึ่งผู้มีเงินคงไม่ประสงค์ เพราะฉะนั้น ความข้อนี้ ขอให้ดำริดูด้วยว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่จะออกพระราชบัญญัตินี้ และอีกประการหนึ่ง ที่กำหนดใช้พระราชบัญญัติหนึ่งเดือนภายหลังวันประกาศในราชกิจจาฯ นั้น เห็นว่า สั้นมาก ไม่สมกับประเพณีกู้เงินกันซึ่งคิดดอกเบี้ยแพง ๆ มาช้านาน จะทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวทัน อาจจะเกิดคดีในทางอาชญามากขึ้น เห็นว่า ควรจะเป็นเวลา ๑ ปีหรืออย่างน้อย ๖ เดือน

พระยามานวราชเสวีกล่าวว่า ขอรับรองร่างพระราชบัญญัตินี้เป็นอย่างยิ่ง แต่การที่จะขอเลื่อนตามความเห็นของพระยาวิชัยฯ