หน้า:รายงานการประชุม สผ (๒๔๗๕-๑๑-๒๕) a.pdf/12

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๓๗๘

มาตรา ๔ ประธานอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า ในมาตรานี้ อ่านว่า "พระมหากษัตริย์จักต้องเป็นพุทธมามกะ และทรงเป็นอัครศาสนูปถัมภก" ความสำคัญในตอนนี้มี ๒ ตอน คือว่า พระมหากษัตริย์จักต้องเป็นพุทธมามกะนั้น ก็โดยเหตุว่า ท่านเป็นผู้ถือพุทธศาสนา แต่ในทางที่เป็นผู้อุปถัมภ์นั้น ก็คือ จะต้องทรงอุปถัมภ์ทุกศาสนา ไม่ฉะเพาะแต่ศาสนาพุทธ คือว่า ศาสนาใดที่ประชาชนับถือ อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ อันเรียกว่า อัครศาสนูปถัมภก

นายดิเรก ชัยนาม กล่าวว่า ที่ว่า เป็นอัครศาสนูปถัมภก นั้น มีศาสนาอย่างใดบ้าง

ประธานอนุกรรมการร่างรัฐธรรมนูญกล่าวว่า เป็นศาสนาที่ประชาชนถือทั่วไป เช่น สุเหล่าอิสลามก็อยู่ในความอุปถัมภ์ ตลอดจนวัดจีนวัดญวนก็อยู่ในความอุปถัมภ์ด้วย และทั้งโรมันคัทธอลิกก็อยูในอุปการะเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นราชประเพณี เพราะฉะนั้น เราจึ่งมิได้ใส่ลงไปว่า พุทธศาสนูปถัมภก

นายดิเรก ชัยนาม กล่าวว่า ในฉะบับภาษาอังกฤษมีความว่า The King shall profess the Budhist religion and is the Upholder of the Faith ซึ่งดูความยังไม่กลมเกลียวกันกับภาษาไทย

พระยาศรีวิสารวาจากล่าวว่า ภาษาอังกฤษนั้นเขียนเป็นกลาง ๆ ซึ่งจะแก้ภายหลัง แต่ภาษาไทยนี้เป็นต้นฉะบับ ซึ่งจะต้องพิจารณากันให้ละเอียด