หน้า:ลัทธิฯ (๑๓) - ๒๔๖๔.pdf/7

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว

ทุกนิกาย กับทั้งราชบัณฑิตแลอุบาสกทั้งหลายไปประชุมเปนอันมาก เจ้าพระยาภาสกรวงศ์ เสนาบดีกระทรวงธรรมการ เปนประธานในที่นั้น ทูตทั้ง ๒ ประเทศเชิญพระเจดีย์ทองคำประดับเพ็ชร์พลอยซึ่งสร้างมาสำหรับรับพระธาตุไปตั้งในที่ประชุม ครั้นเวลาบ่าย ๓ โมงเศษ เจ้าพระยาภาสกรวงศ์จึงประกาศกระแสพระบรมราชโองการในทประชุม แล้วเชิญพระเจดีย์ทองในนั้นมีผะอบทรงพระพุทธสริระธาตุ ๓ องค์มอบแก่ทูตลังกาสำหรับจะได้ประดิษฐานไว้ณเมืองขัณฑิย องค์ ๑ เมืองอนุราธบุรี องค์ ๑ เมืองโคลัมโพ องค์ ๑ ตามประสงค์ของชาวลังกา ส่วนประเทศพม่านั้นก็ได้รับพระเจดีย์มีผะอบบรรจุพระธาตุพระราชทานเปน ๒ องค์ตามความประสงค์ของพวกพม่าดุจกัน สำหรับจะได้ไปประดิษฐานไว้ในประเทศพม่าภาคเหนือ องค์ ๑ ไว้ในประเทศพม่าภาคใต้ องค์ ๑ ขณะที่มอบพระพุทธสริระธาตุแก่ทูตนั้น พระสงฆ์ที่ประชุมสวดไชยปริต ฝ่ายชาวประโคมก็ประโคมปี่พาทย์ด้วยพร้อมกัน แล้วทูตทั้ง ๒ ประเทศต่างก็รับพระพุทธสริระธาตุไปยังที่พัก

ครั้นวันที่ ๑๐ มกราคม โปรดฯ ให้ทูตพม่าทั้งพระสงฆ์แลคฤหัสถ์ขึ้นไปเฝ้าทูลลาที่พระราชวังบางปะอิน เสด็จออกทรงปฏิสันฐาร แล้วโปรดฯ ให้นิมนต์พระสงฆ์พม่าเข้าไปฉันเพนที่พระที่นั่งอุทยานภูมิเสถียร เสด็จลงประเคนภัตตาหาร พระสงฆ์พม่าฉันแล้วเจริญพระปริตถวายไชยมงคลแลถวายอนุโมทนา แล้วจึงถวายพระพรลากลับไป