หน้า:วรรณกรรมต่างเรื่อง - ๒๕๐๕.pdf/15

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
ตัวกูจะอยู่ไปทำไม ก็ยกย่ามขึ้นไหล่ไปทั้งรัก
ฯ ๔ คำ ฯ เชิด
 ช้า
  เมื่อนั้น ท้าวประดู่สุริวงศ์ทรงกระฏัก
เที่ยวเลี้ยงวัวล้าเลื่อยเหนื่อยนัก เข้าหยุดยั้งนั่งพักในศาลา
วันเมื่อมเหสีจะมีเหตุ ให้กระตุกนัยเนตรทั้งซ้ายขวา
ตุ๊กแกตกลงตรงพักตรา คลานไปคลานมาก็สิ้นใจ
แม่โคขึ้นสัดผลัดโคตัวผู้ พิเคราะห์ดูหลากจิตคิดสงสัย
จะมีเหตุแม่นมั่นพรั่นพระทัย ก็เลี้ยวไล่โคกลับเขาพารา
ฯ ๖ คำ ฯ เชิด
 ร่าย
  ครั้นถึงขอบรั้วริมหัวป้อม พระวิ่งอ้อมเลี้ยวลัดสกัดหน้า
ไล่เข้าคอกพลันมิทันช้า เอาขี้หญ้าสุมควันกันริ้นยุง
ยืนลูบเนื้อตัวที่หัวบันได แล้วเข้าในปรางค์รัตน์ผลัดผ้านุ่ง
ยุรยาตรเยื้องย่างมาข้างมุ้ง เห็นกระบุงข้าวกล้องนั้นพร่องไป
ปลาสลิดในกระบายก็หายหมด พระทรงยศแสนเสียดายน้ำลายไหล
กำลังหิวข้าวเศร้าเสียใจ ก็เอนองค์ลงในที่ไสยา
กวักพระหัตถ์ตรัสเรียกมเหสี เข้ามานี่พุ่มพวงดวงยี่หวา
วันนี้มีใครไปมา ยังพาราเราบ้างฤๅอย่างไร
ฯ ๘ คำ ฯ
  เมื่อนั้น นางประแดะฟังความที่ถามไถ่
กราบทูลเยื้องยักกระอักกระไอ ร้อนตัวกลัวภัยพระภูมี
ตั้งแต่พระเสด็จไปเลี้ยงวัว น้องก็นอนซ่อนตัวอยู่ในที่
ไม่เห็นใครไปมายังธานี จงทราบใต้เกษีพระราชา
ฯ ๔ คำ ฯ
  เมื่อนั้น ท้าวประดูได้ฟังให้กังขา
จึงซักไซ้ไล่เลียงกัลยา ว่าไม่มีใครมาน่าแคลงใจ