หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
๖๓
เที่ยวฟังเทศน์มิได้ขาดดูลาดเลา | เห็นแต่เขาคนอื่นไม่ชื่นตา | |
นั่งพับเพียบเรียบร้อยน้อยไปฤๅ | ประนมมือฟังธรรมเทศนา | |
ที่ฟังจริงนิ่งตรับจนหลับตา | บ้างก้มหน้าฟังไปมิได้เงย | |
ที่ฟังเล่นเห็นกันเป็นขวัญเนตร | ไม่ฟังเทศน์เอาบุญแม่คุณเอ๋ย | |
มานั่งเล่นตากันฉันไม่เคย | ไม่สิ้นเลยเหล่าตะกลามกามคุณ | |
ที่ท่านแก่แก่ตัวยังชั่วดอก | หมายจะออกห่างเหจากเมถุน | |
ท่านอยากบวชสวดมนต์ขนเอาบุญ | ที่แรกรุ่นนี้แลร่านรำคาญใจ | |
ด้วยความรักหนักเหลือเหมือนเรือเพียบ | จนน้ำเลียบแคมแล้วแจวไม่ไหว | |
ถ้าผ่อนของขึ้นเสียบ้างยังชั่วใจ | แจวไปไหนไปได้ไม่หนักแรง | |
โอ้โอ๋อกชาวเราเหล่าหนุ่มหนุ่ม | อยากใคร่สุ่มปลาหนองเที่ยวส่องแสวง | |
ตัวฉันเล่าเฝ้าคลั่งด้วยคลางแคลง | จะพลิกแพลงไปอย่างไรก็ไม่รู้ | |
โอ้ไฉนจะสมอารมณ์รัก | ใครช่วยชักฉันจะไหว้ให้หัวหมู | |
ยิ่งร้อนในใจคอให้หมอดู | ว่าขัดคู่นักหนาให้อาดูร | |
ถึงเดือนเก้าเศร้าสร้อยละห้อยหา | พระจันทราวันดับก็ลับสูญ | |
แต่โศกเศร้าเราเสริมขึ้นเพิ่มพูน | ไม่ลับสูญไปบ้างเหมือนอย่างเดือน | |
ไม่ได้ชมโฉมศรีไม่มีสุข | จะเปรียบทุกข์อะไรก็ไม่เหมือน | |
ถึงจะมีเข้าของสักห้องเรือน | ไม่ชื่นเหมือนคนรักสักราตรี | |
ถ้ามีคู่สู่สมภิรมย์รื่น | ทุกวันคืนปรีดิ์เปรมเกษมศรี | |
ถ้าไม่ได้เหมือนหมายตายเสียดี | ไปเกิดมีชาติหน้าคอยท่าน้อง | |
โอ้ว่ากรรมจำเพาะพระเคราะห์รุด | หมายได้นุชเดือนเก้ายิ่งเศร้าหมอง | |
เห็นเมฆมืดเวหาฟ้าคะนอง | พยับฟองฝนสาดอยู่ปราดปราย | |
พยุเยือกโยกมาฟ้าก็แลบ | ดูวับแวบแวววับแล้วดับหาย | |
เหมือนขวัญเนตรแลวับแล้วกลับกลาย | ราวกับสายฟ้าแลบแปลบโพยม |