หน้า:วิญญาณยังอยู่ - ๒๕๐๗.pdf/75

จาก วิกิซอร์ซ
หน้านี้ได้พิสูจน์อักษรแล้ว
67
 

เป็นสามีที่ซื่อสัตย์ และเป็นบิดาที่น่ารัก แต่ภายในบริเวณบ้านใกล้ถนนสายใหญ่ของเขานั้น เบเรียแสดงบทบาทตรงกันข้ามทีเดียว

หลายปีมาแล้ว คฤหาสน์ของเบเรียนี้ว่างอยู่นาน แล้วต่อมา รัฐบาลจึงเข้าปกครอง และได้เปิดให้เป็นบ้านเช่าของพวกทูตต่างประเทศ ซึ่งต่อมาไม่นาน ก็ได้เป็นที่ตั้งของสถานเอกอัครราชทูตของประเทศทูนีเซียซึ่งเพิ่งมีสัมพันธไมตรีกับรัสเซีย บ้านนั้นมีห้องใหญ่สำหรับใช้เป็นที่ทำการของคณะทูตอย่างพอเะียง และมีห้องพักสำหรับท่านเอกอัครราชทูตหนุ่ม อาหเหม็ดเมสติรี กับภริยา และบุตรสองคน

เมื่อครอบครัวของเมสติรีเข้าอยู่ในบ้านนี้แล้วไม่นาน ภริยาท่านเอกอัครราชทูตก็เล่าเรื่องประหลาดให้มิตรสหายฟังว่า เธอได้ยินเสียงต่าง ๆ ในตอนกลางคืน มีทั้งเสียงกรีดร้อง, เสียงคราง และเสียงสะอื้น รวมทั้งเสียงหัวเราะพร้อมกันหลาย ๆ เสียง ดังก้องกระหึ่มด้วย ภริยาท่านเอกอัครราชทูตสาบานว่า ครั้งหนึ่ง เธอตื่นขึ้นเห็นสตรีผู้หนึ่งในเครื่องแต่งกายชุดสีขาว สตรีผู้นั้นกล่าวเตือนเธอว่า ถ้าเธอรักชีวิตเธอและของลูก ๆ ละก็ จงอย่าอยู่ภายใต้หลังคาบ้านนี้ต่อไป. . . เรื่องนี้ ท่านเอกอัครราชทูต ซึ่งเป็นบัณฑิตของมหาวิทยาลัยซอบอนน์ ได้พยายามชี้แจงให้ภริยาเชื่อว่า นั่นเป็นเพียงความเพ้อฝันไปเท่านั้น แต่ก็มีเรื่องเศร้าสลดบังเกิดขึ้นสองเรื่องซึ่งทำให้ภริยาของท่านยึดถือเอาเป็นข้อสนับสนุนความเชื่อของเธอที่ว่า บ้านนั้นเป็นบ้านที่ถูกสาปแช่ง เป็นบ้านกาลกิณี

ในฤดูใบไม้ผลิของปี พ.ศ. ๒๕๐๔ บุตรชายอายุสองขวบของนายอาหเหม็ด อาร์ฟา ที่ปรึกษาสถานทูต ได้ตกจากตึกชั้นที่หกของแฟล็ตที่ครอบครัวของเขาอาศัยอยู่ ถึงแก่ความตาย ต่อมาอีกสองสามอาทิตย์ นายชาดลี ชาอูเช ตำแหน่งกงสุล ขับรถจากงานกินเลี้ยงจะกลับบ้าน รถได้เลื่อนไกลจากสะพานตกลงไปในแม่น้ำมอสโคว์ และผู้ขับจมน้ำตาย

ส่วนทางสถานเอกอัครราชทูตก็ได้พบช่องทางลงไปสู่ห้องใต้ดิน ช่องนี้ก่อกำแพงปิดไว้ส่วนหนึ่งด้วย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สถานทูตยังได้ค้นพบห้องเล็ก ๆ แถวหนึ่ง